ลุง รปภ.หลงกลมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารชื่อดัง หลอกโอนเงิน จนเหลือเงินติดบัญชีเพียง 6 บาท (มีคลิป)

1

ลุง รปภ.หลงกลมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารชื่อดัง หลอกโอนเงินหวังได้เงินกู้ก้อนใหญ่ไปซ่อมบ้านที่ถูกพายุพัด ก่อนสูญเงินไปเกือบหมื่นบาท เจ้าตัวเผยเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่มีอยู่และวันนี้เหลือเงินติดบัญชีเพียง 6 บาทเท่านั้น ห้องเช่าก็ถูกล็อกเพราะไม่มีเงินจ่าย ต้องขับรถจักรยานยนต์ไป-กลับ เพื่อมาทำงานวันละกว่า 200 กม.


        เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ส.ค.2564 นายวันดี สาโม้ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 486 ม.3 ต.ภูเวียง อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งของ จ.ขอนแก่น ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนเพื่อช่วยเป็นกระบอกเสียงสื่อถึงผู้ที่ัรับผิดชอบโดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายไม่ให้ไปก่อเหตุกับคนอื่นอีกหลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารชื่อดัง หลอกโอนเงินจนเหลือเงินติดบัญชีเพียง 6 บาทเท่านั้น

        นายวันดี กล่าวว่า เมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาได้มีคนส่งข้อความผ่านโทรศัพม์มือถือผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ว่าเป็นผู้โชคดีได้รับสิทธิ์เงินกู้ 500,000 บาท ในระยะแรกไม่ได้สนใจอะไร เนื่องจากเกรงจะถูกหลอก ต่อมาไม่นานก็มีข้อความส่งมาอีกครั้งจึงทักกลับไป ซึ่งอีกฝ่ายพยายามส่งข้อความกลับมาให้กรอกรายละเอียด จากนั้นวันที่ 5 ก.ค.ได้แจ้งกลับมาว่าได้รับอนุมัติตามวงเงินกู้ 50,000 บาทดอกเบี้ยร้อยละ 2 ผ่อนเดือนละ 1,200 บาทระยะเวลา 24 เดือนแต่ต้องโอนเงิน 2,000 บาทเป็นค่าลงทะเบียน จึงได้โอนเงินไปซึ่งได้เลขที่บัญชีและชื่อเจ้าหน้าที่ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารชื่อดังโดยเมื่อโอนแล้วแจ้งกลับมาว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ

      “ต่อมาวันที่ 16 ก.ค. ได้รับแจ้งกลับมาว่าต้องโอนเงินเพิ่มอีก 3,000 บาทเป็นค่าเอกสารจึงหลงเชื่อจึงโอนไปอีก และในวันเดียวกันนั้น มิจฉาชีพได้หลอกอีกว่าตอนนี้เงินกู้พร้อมโอนแล้วแต่ต้องชำระเงินผ่อนงวดแรกและค่าโอนรวม 2,000 บาทพร้อมบอกว่าอีก 10 นาทีจะโอนเงินกู้ให้ และให้รหัสมากดเงิน ผมจึงไปกดเงินพบว่าไม่มีเงินเข้าบัญชี พยายามติดต่อกลับไปแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงรู้ว่าน่าจะถูกหลอก”

        นายวันดี กล่าวต่ออีกว่า ภายหลังหลังจากที่ไม่ได้รับเงินและติดต่ออีกฝ่ายไม่ได้จึงพยายามติดต่อกลับไปอีกครั้งจนวันนี้ ผ่านไป 2 สัปดาห์ก็ติดต่อไม่ได้ เงินในบัญชีเหลือเพียง 6 บาทรวมถึงค่าห้องพักก็ค้างจ่ายจนเจ้าของห้องพักนำกุญแจมาล๊อกห้องเอาไว้ ทำให้ต้องขับรถจักรยานยนต์ไปกลับขอนแก่น-อ.ภูเวียง เพื่อมาทำงาน ระยะทางเกือบ 200 กม. อย่างไรก็ตามได้นำหลักฐานทั้งหมดแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งการร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม รวมทั้งสื่อมวลชนเพื่อให้การสืบสวนสอบสวนจับกุมคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎมายต่อไป

Leave a Response

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง