ขอนแก่น พช.ติวเข้มผู้ประกอบการผ้าทอสู่สากล (มีคลิป)
พช.ติวเข้ม ผู้ประกอบการผ้าทออีสาน สู่มาตรฐานการค้าสู่สากล "ณัฐนิช" ย้ำชัด คอตตอน ไทยแลนด์ มีดีทั่วไทย แข่งขันได้ทุกระดับ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์เครื่องแต่งกาย ของใช้และของตกแต่งจากผ้าทออีสาน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 1 มิ.ย.2561 ที่โรงแรมเดอะคอนวินเนี่ยน อำนวยสุข ขอนแก่น นายธีระเชษฐ สอนปะละ พัฒนาการ จ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฎิบัติการครั้งที่ 1/1 ยกระดับผ้าทออีสานสู่สากล ตีโจทย์ เข้าใจเทรนด์ สู่การสร้างมูลค่า คุณค่าเพิ่ม ซึ่งกรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้กำหนดจัดการฝึกอบรมขึ้น โดยมีผู้ประกอบการผ้าทอ จากทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสานเข้าร่วมรับการอบรมรวมกว่า 500 คน
น.ส.ณัฐนิช อินทสระ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน
น.ส.ณัฐนิช อินทสระ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน กรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ผ้าทออีสาน มีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดการค้าได้เป็นอย่างดี ด้วยภูมิปัญญา และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ สวยงามมีความต้องการในตลาดอย่างมาก กรมพัฒนาชุมชนจึงได้กำหนดแนวทางการนำผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นมาพัฒนาศักยภาพ ปรับวิธีคิด เสริมดีไซน์ การลงรายละเอียดตั้งแต่กระบวนการผลิต ให้สอดคล้องกับตลาดในกลุ่มเป้าหมาย และที่สำคัญคือการนำผ้าทอของไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผ้าฝ้ายให้เป็น คอตตอน ออฟ ไทยแลนด์ (Cotton of Thailand) ที่เป็นผลิตภัณฑ์การค้าไทยเทียบชั้นระดับสากล
"ผ้าทออีสาน เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่สวยงามและมีความต้องการของตลาดสูงมาก โดยเฉพาะตลาดในต่างประเทศ ที่วันนี้ผ้าไหม มีตลาดต้องการอย่างมาก จากนี้ไปคือการร่วมมือกันผลักดันผ้าทอในกลุ่มผ้าฝ้าย ให้เป็นผลิตภัณฑ์ของไทยที่มีกระลวนการผลิตในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ ตั้งแต่เครื่องแต่งกายที่หบากหลายสไตล์ กลุ่มของใช้ ของตกแต่งจากผ้าทออีสาน รวมไปถึงสินค้าเชิงวัฒนธรรม ที่การอบรมครั้งนี้จะดึงเอาจุดเด่นของผ้าทอ มาผสานกับรูปแบบ ดีไซน์ และสไตล์การแต่งตัวของคนทุกช่วงวัย"
น.ส.ณัฐนิช กล่าวต่ออีกว่า เรามีเวลาในการทำงาน 180 วัน ที่จะพัฒนาผ้าทออีสาน ที่เป็นผ้าทอแข่งขันกับผ้าทอจากภูมิภาคต่างๆได้ กรมพัฒนาชุมชนจะขยายการใช้สอย ของตกแต่ง เครื่องแต่งกายจากผ้าทอ ที่เป็นผ้าฝ้าย ให้มีตอบโจทย์ในเรื่องของประโยชน์ใช้สอย สวยงาม และโดนใจคนทุกรุ่น ทั้งนี้กระบวนการอบรมดังกล่าวนี้นั้น ได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตลาดหลัก คือกลุ่มตลาดส่งออก ที่จะมีการคัดเลือก 9 ผลิตภัณฑ์ กลุ่มตลาดพรีเมี่ยม คัดเลือก 100 ผลิตภัณฑ์ และสุดท้ายคือกลุ่มตลาดต่างประเทศ คือกลุ่มผู้ที่เข้าร่วมรับการอบรมในส่วนที่เหลือ ในการร่วมกันพัฒนาและต่อยอดอัตลักษณ์ให้กับผ้าทออีสานที่สร้างมูลค่า และคุณค่าเพิ่มด้วยการเวิร์คชอปที่เข้มข้นของผู้เชี่ยวชาญที่มาถ่ายทอดประสบการณ์และดึงเสน่ห์ผ้าทออีสานให้ครองใจลูกค้าได้อย่างครอบคลุมต่อจากนี้
