สแกนของขึ้นเครื่องบินไม่ผ่าน หมดห่วงไปรษณีย์ผุดตู้ฝากอัตโนมัติ ขอนแก่นได้ 1 เครื่อง   


14 พฤษภาคม 61 11:26:52


นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ได้จัดทำแผนยกระดับระบบปฏิบัติการไปรษณีย์ตามนโยบายไปรษณีย์ไทย 4.0 รองรับความต้องการที่หลากหลายและสนับสนุนการเข้าถึงโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการ SMEe-Commerce หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชน OTOP ในภูมิภาคที่เรียกว่า New CA POS เพิ่มความสามารถรองรับปริมาณงานที่เพิ่มขึ้นและบริหารจัดการข้อมูล การให้บริการติดตั้งแล้ว 255 ที่ทำการไปรษณีย์และจะทยอยติดตั้งให้ครบทุกแห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้

          
นางสมร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังติดตั้งเครื่องบริการรับฝากไปรษณีย์อัตโนมัติหรือเอพีเอ็ม(APM) รองรับผู้ใช้บริการที่ต้องการฝากส่งเร่งด่วนหรือสิ่งของที่ไม่ผ่านการเอกซเรย์ อีก 9 เครื่อง ให้แล้วเสร็จภายในปี 61 หลังกระแสตอบรับดีในการติดตั้งเครื่องแรกที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยจะติดตั้งที่ท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน (ทย.) 7 แห่ง ดังนี้ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ 2 เครื่อง ท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี 2 เครื่อง ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี 1 เครื่อง ท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี 1 เครื่อง ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช 1 เครื่อง ท่าอากาศยานขอนแก่น 1 เครื่อง และท่าอากาศยานแม่สอด 1 เครื่อง และในปี 62 จะติดตั้งเพิ่มพื้นที่ 10 สนามบินจะทำให้มีเครื่อง APM อยู่ในพื้นที่สนามบิน 28 แห่งทั่วประเทศ


          
นางสมร กล่าวอีกว่า ไปรษณีย์ไทยยังพัฒนาระบบนำจ่ายเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลครัวเรือนครบถ้วน 17 ล้านครัวเรือนพร้อมเพิ่มจำนวนรถยนต์ช่วยนำจ่าย กว่า 200 คันทั่วประเทศ รองรับปริมาณกว่า 8 ล้านชิ้นต่อวัน จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถนำจ่ายสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพและยังป้องกันความเสียหายของสิ่งของที่ฝากส่งจากการทับซ้อนกันในขั้นตอนการนำจ่ายได้อีกด้วย
          
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเครื่องเอพีเอ็มบริการรับฝากส่งสิ่งของทั้งในและต่างประเทศด้วยบริการ Post & Fly เพื่อผู้ใช้บริการผ่าน ท่าอากาศยานฯและเผลอลืมนำสิ่งของที่ไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้ เช่น ของเหลวต่าง ๆ จะได้ส่งกลับบ้านได้ไม่ต้องทิ้งให้เสียดายหรือต้องการส่งสิ่งของช่วงเวลาเร่งด่วนไม่ต้องเข้าคิวที่เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ โดยมีวิธีการใช้ง่าย ๆ แค่กรอกหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือหมายเลขหนังสือเดินทางยืนยันตัวตนผู้ฝากส่ง
          
พร้อมยืนยันว่าสิ่งของที่ฝากส่งไม่ใช่สิ่งของต้องห้ามที่เป็นอันตราย อาทิ วัตถุมีคมที่ไม่มีเครื่องหุ้มห่อป้องกัน วัตถุระเบิด สิ่งมีชีวิต วัตถุอัดก๊าซและวัตถุไวไฟ โดย น้ำหนักสิ่งของต้องไม่เกิน 500 กรัม สามารถรับเหรียญ ธนบัตร และสามารถทอนเงินได้ ซึ่งการจัดส่งหากเป็นพัสดุภายในประเทศแบบด่วนพิเศษ (EMS) ค่าบริการ 50 บาทต่อชิ้น ส่วนปลายทางต่างประเทศจะได้รับการจัดส่งด้วยบริการไปรษณีย์ลงทะเบียนระหว่างประเทศ ค่าบริการจัดแบ่งตามโซนหรือทวีป.

ที่มา เดลินิวส์







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS