สาวขอนแก่น ซื้อบ้านเงินสด 2 ล้าน แต่เจ้าของโครงการไม่โอน หลอกขายทอดตลาด
จากกรณีที่เฟซบุ๊กแหม่มโพธิ์ดำได้มีการโพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “อุทาหรณ์ซื้อบ้านเงินสด #แต่ไม่ยอมโอน #สูญเงินล้าน #เจ้าของเดิมไม่ยอมขายทอดตลาด” พร้อมมีรูปเจ้าของบ้านและป้ายข้อความเขียนว่า “บ้านเราโดนยึด ซื้อเงินสด แต่ถูกยึด ไม่โอนบ้าน ไม่คืนเงิน บ้านเราโดนยึด เพราะถูกโกง”
ผู้สื่อข่าวเราจึงเดินทางไปบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 21 ซึ่งเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ตั้งอยู่ ถ.ศรีจันทร์ ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จ.ขอนแก่น เพื่อพบกับคุณธรรม์ชนก หรือ คุณเร อายุ 37 ปี อาชีพค้าขาย เจ้าของบ้าน
คุณธรรม์ชนก เล่าให้ฟังว่า เมื่อราว 3 ปีที่ผ่านมา ตนเองและแฟนได้เงินก้อนจากการขายร้านของชำ จึงต้องการซื้อบ้านใหม่เพื่ออยู่อาศัยและประกอบธุรกิจขายของออนไลน์ไปด้วย และเมื่อได้เข้ามาดูทาวน์โฮมในโครงการดังกล่าว
ได้พบกับนางสุรางรัตน์ หรือ แอน อ้างว่าเป็นเจ้าของโครงการ จึงตัดสินใจซื้อบ้านเงินสด และทำสัญญาซื้อขายกับคนชื่อแอน ในราคา 2.5 ล้านบาท ซึ่งบ้านสามารถเริ่มสร้างและโอนได้เลยเมื่อเสร็จสมบูรณ์และพร้อมเข้าอยู่ภายในเวลา 20 วัน
แต่เนื่องจากซื้อเงินสด ผู้ซื้อต้องจ่ายค่าดำเนินการก่อสร้างครึ่งหนึ่ง เป็นเงิน 1 ล้านบาท และค่าเปลี่ยนวัสดุภายในเป็นเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินตามที่ผู้ซื้อต้องการอีกราว 7 แสนบาท พอถึงวันโอนตามสัญญา นางสุรางรัตน์ หรือ แอน กลับ อ้างว่า บ้านสร้างชิดที่ดินของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตการสร้างชิดพื้นที่
จึงขอเวลาเคลียร์ปัญหาตรงนี้ก่อน และทำสัญญาแนบท้าย ระบุวันโอนมาให้ใหม่ หลังจากนั้น ก็บ่ายเบี่ยงที่จะโอนมาตลอดโดยสร้างเรื่องมาหลอกลวงไปเรื่อย จนมาทราบความจริงเองว่าไม่โอนบ้านเพราะที่ดินแปลงนี้ติดจำนองอยู่กับนายทุน
คุณธรรม์ชนก บอกอีกว่า ผู้รับจำนองกับนางสุรางรัตน์ ทำธุรกิจร่วมกัน สร้างบ้านขายด้วยกัน แต่ที่เป็นปัญหาเพราะนางสุรางรัตน์ ไม่นำเงินที่ได้จากการขายบ้านไปไถ่ถอนและโอนมาเป็นชื่อของผู้ซื้อ จึงกลายเป็นปัญหาและเมื่อมีปัญหา ต่างคน ต่างโบ้ยความผิดให้กันไปมา จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมากว่า 2 ปี
ปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขและมีทางออกที่ชัดเจนจึงให้ทนายฟ้องคดีผิดสัญญา และศาลตัดสินให้ นางสุรางรัตน์ คืนเงินพร้อมดอกเบี้ย ตอนนี้รวมเป็นเงิน 3 ล้านบาท แต่นางสุรารัตน์ กลับไม่สะทกสะท้านไม่ยอมหาเงินมาคืนและอ้างว่าไม่มีเงิน ทั้งที่มีทรัพย์สินบ้านและที่ดินหลายแปลง ศาลจึงบังคับให้ขายบ้านหลังนี้และที่ดินเพื่อขายทอดตลาด นำเงินมาคืนให้กับผู้ซื้อ
สำหรับโครงการดังกล่าว มี 16 ยูนิต เป็นชื่อของนางสุรางรัตน์ และสามีที่ไม่จดทะเบียน จำนวน 5 ยูนิต นอกนั้นเป็นชื่ออื่นๆ ของผู้มีชื่อรับจำนอง ตอนนี้ขายได้เพียง 3 หลัง ในช่วงแรกราคาซื้อขาย 2.59 ล้านบาท พอมีปัญหาและทิ้งร้างมา 3 ปี ทำให้ราคาขายในตอนนี้ลดราคาลงหลายแสนบาท
ที่มา https://www.facebook.com/WorkpointNews/
