เผยแบบเมรุลอยหลวงพ่อคูณ 'นกหัสดีลิงค์' เทินบุษบกอย่างสมเกียรติใหญ่และงามที่สุดในภาคอีสาน   


18 พฤศจิกายน 60 10:26:49

เผยแบบเมรุลอยหลวงพ่อคูณ 'นกหัสดีลิงค์' เทินบุษบกอย่างสมเกียรติใหญ่และงามที่สุดในภาคอีสาน 
 
     ชาวจังหวัดขอนแก่น ผสานความร่วมมือศิษยานุศิษย์หลวงพ่อคูณ จังหวัดนครราชสีมา และองค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมสร้างเมรุลอยหลวงพ่อคูณรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกสีขาวทั้งหลังตามตำนานและความเชื่อพิธีพระราชทานเพลิงศพพระเถระผู้ใหญ่ที่มีนับพันปี อย่างสมเกียรติ และหลังใหญ่และงามสื่ออัตลักษณ์ความโดดเด่นชาวอีสานที่สุด

รศ.ดร. นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ประธานกรรมการฝ่ายออกแบบเมรุลอยหลวงพ่อคูณ เผยว่าคณะกรรมการออกแบบฯมีความมุ่งมั่้นที่จะสร้างขึ้นอย่างสมเกียรติที่สุด โดยออกแบบให้เมรุลอยมีความสูง 22.6 เมตร ฐานกว้าง 16 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่และงดงามที่สุดตั้งแต่มีการสร้างขึ้นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ กับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น วัฒนธรรมจังหวัดอุดรธานี วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย วิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ วิทยาลัยนาฏศิลปนครราชสีมา วิทยาลัยนาฏศิลปร้อยเอ็ด และคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้ออกแบบเมรุลอยและโครงสร้างที่ประกอบเมรุลอย พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ โดยออกแบบเป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกสีขาวทั้งหลัง ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมของชาวอีสานที่นิยมสร้างนกหัสดีลิงค์ประกอบเมรุลอยพระเถระชั้นผู้ใหญ่
 
 
         ตามพินัยกรรมที่ท่าน พระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ได้มอบสรีรสังขารของท่านเป็นครูใหญ่สาธิตสอนแก่นักศึกษาแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยสรีรสังขารของท่านถูกเก็บไว้ที่ห้องเก็บสรีระสังขารหลวงพ่อคูณ ชั้น 7 คณะแพทยศาสตร์ และจะสิ้นสุดกระบวนการจัดการเรียนการสอนในช่วงกลางปี 2561 จากนั้น คณะกรรมการที่รับผิดชอบร่างครูใหญ่ จะยุติการนำร่างครูใหญ่ในระบบการจัดการเรียนการสอน เข้าสู่ขั้นตอนของการเตรียมประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 ทั้งนี้ เพื่อให้เหมาะสมและสมเกียรติหลวงพ่อคูณ ซึ่งเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่ จึงจะดำเนินการสร้างเมรุลอยหลวงพ่อคูณ
 
รศ.ดร. นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ประธานกรรมการฝ่ายออกแบบเมรุลอยหลวงพ่อคูณรศ.ดร. นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ประธานกรรมการฝ่ายออกแบบเมรุลอยหลวงพ่อคูณ
 
         รศ.ดร. นิยม วงศ์พงษ์คำ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ ประธานกรรมการฝ่ายออกแบบเมรุลอยหลวงพ่อคูณ เผยว่า “จากความร่วมมือทุกภาคส่วน ได้เตรียมการสร้างเมรุลอยหลวงพ่อคูณแล้ว โดยได้ออกแบบเป็นรูปนกหัสดีลิงค์เทินบุษบกสีขาวบริสุทธิ์ทั้งหลังซึ่งจินตนาการถึงสวรรค์ บนฐานแปดเหลี่ยม สูง 22.6 เมตร และฐานเมรุกว้าง 16 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุด พร้อมประดับประดาด้วยสรรพสัตว์ต่าง ๆ จากเขาพระสุเมรุ เพื่อจำลองเขาพระสุเมรุตามคติในพระพุทธศาสนา โดยออกแบบใหม่ทั้งหมดให้มีรูปทรงและลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยแสดงถึงอัตลักษณ์ความโดดเด่นของชาวอีสาน เพื่อให้ผลงานออกมาวิจิตรงดงามที่สุด สมกับเป็นสถาบันที่เป็นศูนย์รวมทางความคิด สติปัญญา และการศึกษาของภาคอีสาน”
 
 
         รศ.ดร. นิยม วงศ์พงษ์คำ กล่าวต่อว่า  “นอกจากขนาดที่ใหญ่และความงดงามที่สุดของเมรุลอย นกหัสดีลิงค์ที่ประกอบเมรุลอยนี้ ยังจะถูกสร้างให้มีกลไกในการเคลื่อนไหวส่วนต่างๆ ได้ อาทิ หันศีรษะ ม้วนงวง กระพริบตา กระดิกหู และมีเสียงร้อง เพื่อประกอบพิธีการในวันพิธีพระราชทานเพลิงสรีรสังขารหลวงพ่อคูณ ตามตำนานนกหัสดีลิงค์เป็นสัตว์หิมพานต์ชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ มีกำลังมหาศาล ลำตัวเป็นนกมีปีกและหาง แต่ส่วนหัวเหมือนช้างมีงวงและงา โดยการสร้างนกหัสดีลิงค์ประกอบเมรุลอย มาจากตำนานที่ว่า สมัยโบราณหลายพันปีมาแล้ว ในนครตักกะศิลาเชียงรุ้งแสนหวีฟ้ามหานคร พระมหากษัตริย์แห่งนครนั้นถึงแก่สวรรคต ตามธรรมเนียมต้องอัญเชิญพระศพออกไปฌาปนกิจที่ทุ่งหลวง ในครั้งนั้นพระมหาเทวีให้จัดการพระศพตามโบราณประเพณี ได้แห่พระศพออกจากพระราชวังไปยังทุ่งหลวงเพื่อถวายพระเพลิง”
 
 
          “ขณะนั้นมีนกหัสดีลิงค์ซึ่งกินเนื้อสัตว์เป็นอาหารบินมาจากป่าหิมพานต์ เห็นพระศพคิดว่าเป็นอาหาร จึงบินโฉบลงมาเอาพระศพไป เมื่อพระมหาเทวีเห็นเช่นนั้นก็ประกาศให้คนดีเข้าต่อสู้กับนกหัสดีลิงค์เพื่อเอาพระศพคืนมา คนทั้งหลายก็อาสาต่อสู้กับนกหัสดีลิงค์ แต่สู้ไม่ได้ ถูกนกหัสดีลิงค์จับกินหมด ธิดาแห่งพญาตักกะศิลานามว่า สีดา จึงเข้ารับอาสาต่อสู้นกหัสดีลิงค์ โดยนางได้ใช้ศรอาบยาพิษยิงนกหัสดีลิงค์ นกหัสดีลิงค์ถึงแก่ความตายตกลงมาพร้อมพระศพแห่งกษัตริย์องค์นั้น พระมหาเทวีจึงโปรดสั่งให้ช่างทำเมรุคือหอแก้วบนหลังนกหัสดีลิงค์แล้วเชิญพระศพขึ้นประดิษฐานบนหลังนกหัสดีลิงค์ แล้วถวายพระเพลิงไปพร้อมกัน ต่อจากนั้นมาจึงได้ถือเอาประเพณีทำนกหัสดีลิงค์ประกอบเมรุ เจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ผู้มีวาสนาบารมีสูง หรือพระเถระชั้นผู้ใหญ่” รศ.ดร. นิยม วงศ์พงษ์คำ กล่าว
 

สำหรับพิธีพระราชทานเพลิงสรีรสังขารลักษณะนี้ชาวขอนแก่นอาจไม่คุ้นเคย แต่สำหรับจังหวัดที่มีเกจิอาจารย์พระเถระชั้นผู้ใหญ่ชั้นสูงจะคุ้นเคยดี เรามาทำความรู้จักตำนานนกหัสดีลิงค์ผ่านคลิปนี้ครับ
 







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS