ย้อนรอยคดีสยอง ฆ่าหนุ่มขอนแก่นหมกป่า ติดหนี้แก๊งค้ายาบ้า
วงจรธุรกิจสีดำ อย่างการค้ายา เสพติด แม้จะมีอาญาบ้านเมืองที่กำหนดโทษไว้อุกฉกรรจ์ แต่ความหอมหวนของกลิ่นเงินตราที่ได้มาแบบง่ายดาย และมากมายมหาศาล เป็นสิ่งยั่วยวนให้ผู้ที่คิดสั้นหวังรวยทางลัดก้าวเข้าสู่วงจรอุบาทว์นี้ ตลอดเวลา ถึงจะรู้อยู่เต็มอกว่าสุดท้ายแล้วบั้นปลายชีวิต หากไม่ติดคุกหัวโต ก็ต้องตายโหงสถานเดียว
เช่นเดียวกับโจ๋ 19 ที่ต้องทิ้ง ชีวิตวัยหนุ่ม กลายเป็นผีเฝ้าป่า เมืองขอนแก่นก่อนเวลาอันควร เพราะเบี้ยวจ่ายค่ายาบ้าที่ติดค้างแก๊งเอเยนต์ยานรก เหตุฆาตกรรมอุกอาจครั้งนี้เป็นข่าวครึกโครมขึ้นในวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา เมื่อ พ.ต.อ.ชุมพล หันชะนา ผกก.สภ.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น รับแจ้งเหตุพบศพชายหนุ่มถูกยิง เสียชีวิต ทิ้งศพหมกไว้กลางป่า บ.ม่วง ม.14 ต.บ้านทุ่ม จึงรีบรายงานให้ พล.ต.ต.จิตรจรูญ ศรีวนิชย์ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พ.ต.อ.สุดพิเศษ เอกศิริ รอง ผบก. ทราบในเบื้องต้น จากนั้นรีบนำกำลัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนรุดไปตรวจสอบทันที ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะกลางทุ่งนาอยู่ห่างจากถนนเส้นทางสายหลักประมาณ 50 เมตร และห่างจากวัดสามัคคีบ้านม่วง ประมาณ 500 เมตร พบศพชายไทยอายุประมาณ 20-25 ปี สภาพศพสวมเสื้อแขนสั้นลายสีม่วงกางเกงขาสั้นลายสีดำ มีร่องรอยถูกอาวุธปืนยิงบริเวณลำคอด้านขวาทะลุแก้ม จากการตรวจค้นไม่พบหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน มีเพียงรอยสักกราฟิกรูปคาบูกิ และตัวอักษรเขียนว่า ส.ดาวร้าย B-13 บริเวณแขนทั้ง 2 ข้างเท่านั้น ที่พอจะเป็นเบาะแสได้
หลังกระจายกำลังกันออกสืบหาตัวตนของผู้เสียชีวิตได้ ไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็ทราบว่าคือ นายจักพรรดิ์ คลังกำภา อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.24 บ.โนนกู่ ต.สาวะถี อ.เมืองขอนแก่น เมื่อตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดก็พบอีกว่านายจักพรรดิ์ มีส่วนเกี่ยวพันกับ นายทรงธรรม ล้อประเสริฐ อายุ 45 ปี ชาว ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เอเยนต์ยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ขอนแก่น จึงเริ่มพุ่งเป้าไปที่การหักหลังกันในวงการค้ายาเสพติด
จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กผู้ตาย พบข้อความสุดท้ายเป็นการนัดพบกับหญิงสาว 2 คน ก่อนจะกลายเป็นศพ จึงเริ่มต้นคลี่คลายคดีนี้จากหญิงสาวทั้งคู่ เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวหญิงสาวทั้งคู่ที่อายุ 17 และ 20 ปี ก็เปิดปากสารภาพว่า พาผู้ตายไปหานายทรงธรรมและพวกรวม 4 คน ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในเขตบ้านสาวะถี ต.บ้านทุ่ม จากนั้นไม่รู้เรื่องอะไรอีก จึงกันตัวไว้เป็นพยาน เมื่อไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของรีสอร์ตที่พยานอ้างถึง ก็พบว่าสอดคล้องกับคำให้การ เจ้าหน้าที่ ก็มั่นใจว่านายทรงธรรมและพวกเป็นฆาตกรตัวจริง จึงกระจายกำลังออกติดตามตัว เพียง 2 วันเท่านั้นหลังพบศพ เจ้าหน้าที่ก็บุกชาร์จจับนายทรงธรรม พร้อมลูกน้องอีก 3 คน ประกอบด้วย นายวาท สุพรมวัล อายุ 26 ปี นายวสันต์ ศิริขันแสง อายุ 30 ปี และชายวัยรุ่นอายุ 18 ปี ขณะหนีไปกบดานในพื้นที่บ้านกระเดา ต.นาหว้า อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ในวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา
เมื่อสูญสิ้นอิสรภาพและจำนนด้วยพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ทั้งหมดก็เปิดปากสารภาพว่า สาเหตุจากผู้ตายติดหนี้ค่ายาบ้าจำนวน 1.5 แสนบาท ทวงถามหลายครั้งแล้วแต่ยังไม่ยอมจ่าย จึงตัดสินใจพาไปยิงทิ้งเพื่อระบายความแค้น โดยวางแผนให้ 2 สาว ไปล่อให้ผู้ตายพามาส่งให้ที่ รีสอร์ตดังกล่าว ก่อนพาตัวขึ้นเก๋งโตโยต้า โคโรลล่า สีขาว ทะเบียน ขข 7609 ขอนแก่น เจรจาทวงค่ายานรกเป็น ครั้งสุดท้าย แต่ผู้ตายก็ยังไม่มีเงินให้จึงต้องใช้ชีวิตจ่ายแทน นายทรงธรรมรับว่า เป็นคนยิงผู้ตายคารถ ก่อนให้นายวาทซึ่งเป็นคนขับ พาไปยังป่าจุดที่พบศพ จากนั้นลากร่างนายจักพรรดิ์ซึ่งยังมีลมหายใจรวยรินลงจากรถ ส่งปืนให้นายวาทลั่นไกซ้ำ สอง และให้หนุ่มโจ๋วัย 18 ปี ลั่นไกซ้ำสามเป็นคนสุดท้าย จนแน่ใจว่าตายสนิทจึงทิ้งศพไว้แล้วขับรถหลบหนีไปกบดาน จนถูกตำรวจบุกจับได้ยกแก๊งในที่สุด นับเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงของตำรวจขอนแก่น ที่ใช้เวลาอันรวดเร็วก็ปิดคดีฆาตกรรมโหดครั้งนี้ลงได้
ขอขอบคุณภาพและข่าว
ข่าวสด (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559
ย้อสุพล บุญชื่นชม จักรพันธ์ นาทันริ เรื่อง/ภาพ
