ขอนแก่น คนร้ายหลอกยกเอาตู้เติมเงินของยายวัย 72 ปีไปงัดเอาเงินกลางป่าอ้อย (มีคลิป)
คนร้ายอ้างเป็นพนักงานบริษัทตู้เติมเงินมาขอยกตู้เติมเงินที่ร้านค้าของชำของยายวัย 72 ปี ก่อนยกตู้ขึ้นรถจักรยานยนต์ไปแอบงัดเอาเงินในป่าอ้อย ชาวบ้านเอะใจตามไปเจอตะครุบตัวได้แต่คนร้ายฮึดสู้เอามือถือป่าใส่หน้าวิ่งหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กำลังช่วยกันยกตู้เติมเงินและรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง ที่คนร้ายทิ้งไว้เป็นหลักฐาน เพื่อไปตรวจสอบ หลังได้รับแจ้งจากกำนันตำบลหนองกุงว่ามีคนร้ายเข้ามาในหมู่บ้านมายกตู้เติมเงินไปแล้วเข้าป่าอ้อยไปงัดเอาเงิน ชาวบ้านช่วยกันจับตัวไว้แต่คนร้ายหนีไปได้ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.วันที่ 13 ธค ที่บ้านหนองนกเขียน ม.6 ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปยังร้านค้าที่เกิดเหตุ ซึ่งมีนางบุญเสริม ตาแสง อายุ 72 ปี เป็นเจ้าของร้าน เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ช่วงเช้าเวลาประมาณ 07.30 น.ขณะที่ตนกำลังนั่งทานข้าวกับเพื่อนบ้านอยู่หน้าร้านขายของชำของตนเอง เลขที่ 99 ม.6 บ้านหนองนกเขียน ต.หนองกุง มีชายรูปร่างผอมสูง อายุประมาณ 30 ปี ขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านอ้างว่าเป็นพนักงานบริษัทเจ้าของตู้เติมเงินจะมาเอาตู้ไปเปลี่ยนเพื่อเอาตู้เครื่องใหม่มาให้ ตนจึงคัดค้าน แต่ชายคนดังกล่าวยังอ้างว่าเป็นเจ้าของพร้อมให้เบอร์โทรติดต่อไว้ แล้วลงมือเอาไขควงงัด โดยใช้เวลาอยู่จุดนั้นเกือบ 2 ชม.เมื่องัดสำเร็จจึงขนตู้ขึ้นท้ายรถจักรยานยนต์ขับออกไป
จังหวะที่ขับรถผ่านชาวบ้านเห็นไม่ชอบมาพากลคิดว่าน่าจะเป็นคนร้าย จึงแอบขับรถจักรยานยนต์สะกดรอยไปห่างๆ จนกระทั่งชายคนนั้นเลี้ยวรถเข้าป่าอ้อย จึงเรียกชาวบ้านมาเพิ่มแล้วจู่โจมเข้าไปพบคนร้ายกำลังใช้ไขควงงัดตู้เพื่อเอาเงินในตู้อยู่จึงรีบตะครุบตัวและต่อสู้กันจนคนร้ายจำนนและขอนั่งพัก จังหวะนั้นคนร้ายได้ใช้โทรศัพท์มือถือปาใส่หน้าชาวบ้านแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าอ้อยหายไป
ด้านนายฉัตรชัย โลหะมาตร์ กำนันตำบลหนองกุง เล่าว่า หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีคนร้ายเข้าในหมู่บ้านมายกตู้เติมเงินร้านค้ากลางหมู่บ้านขึ้นรถจักรยานยนต์ไปทางป่าอ้อยจึงรีบตามไปดูพบคนร้ายกำลังต่อสู้กับชาวบ้านแล้วหลบหนีไป ทิ้งไว้เพียงรถจักรยานยนต์ ตู้เติมเงินที่มีไขควงเสียบคาไว้และโทรศัพท์มือถือไว้ดูต่างหน้า ตนจึงโทรแจ้งตำรวจแล้วนำหลักฐานทั้งหมดไปเก็บไว้ที่บ้าน จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น.วันเดียวกับได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่อยู่ติดกันกับบ้านหนองนกเขียนห่างไปประมาณ 3 กม.ว่ามีคนร้ายมาขโมยรถจักรยานยนต์ที่จอดเสียบกุญแจไว้ ซึ่งรูปพรรณสัณฐานคล้ายชายที่มาขโมยตู้เติมเงินจึงให้ตำรวจเข้าตรวจสอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บหลักฐานจากจุดเกิดเหตุและสอบสวนพยานทั้งหมด คาดว่าคนร้ายน่าจะเปลี่ยนวิธีจากงัดตู้เติมเงินมาเป็นการออกอุบายว่ามาเอาตู้มาเปลี่ยนให้ใหม่โดยเลือกร้านที่มีผุ้สูงอายุเฝ้าร้าน จากนั้นก็ลงมืองัด ซึ่งจากการเปิดเผยทราบว่า ตู้เติมเงินร้านที่ถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุมีเงินในตู้เกือบ 1 หมื่นบาท ขณะนี้น่าจะทราบตัวคนร้ายแล้ว คาดว่าจะสามารถจับตัวได้ไม่นาน
