เที่ยวภูผาม่านชมฝูงค้างคาวนับล้านตัว ชมต้นเฉลียงทอง อิ่มอร่อยกับหลามไก่เมนูประจำถิ่น (มีคลิป)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ถ้ำค้างคาว อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้พากันมาจับจองที่นั่ง และบริเวณถนนโดยรอบ ในจุดบริการนักท่องเที่ยว อ.ภูผาม่าน เพื่อชมปรากฎการณ์ธรรมชาติค้างคาวนับล้านตัว ที่บินออกจากถ้ำเพื่อออกไปหากินในช่วงค่ำของทุกวัน เป็นแถวยาวเรียงรายตั้งแต่บริเวณปากถ้ำ พาดผ่าน อ.ภูผาม่าน ก่อนที่จะแยกย้ายกันออกไปหารับประทานอาหารตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในอันซีนท่องเที่ยวของ จ.ขอนแก่น ที่ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาชมความสวยงามของขบวนค้างคาวสายพันธุ์ค้างคาวปากย่น ที่จะพร้อมใจกันบินเป็นขบวนขนาดใหญ่และยาวที่สุดในภาคอีสาน เป็นประจำทุกวัน ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายในช่วงฤดูหนาวแบบนี้
ชมค้างคาวพันธุ์ปากย่นนับล้านตัวบินออกหากิน
นายชินกร แก่นคง นายอำเภอภูผาม่าน กล่าวว่า ขบวนฝูงค้างคาวพันธุ์ปากย่น จัดเป็นไฮไลท์ที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่พากันมาชมความสวยงามทางธรรมชาติ ที่หาชมได้ยากในภาคอีสาน เพราะการที่ค้างคาวนับล้านตัวจะบินออกจากถ้ำพร้อมกันและในเส้นทางเดี่ยวกันเพื่อไปหาอาหารรับประทานในช่วงเย็นและเวลากลางคืน เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่คนในพื้นที่ได้ร่วมกันอนุรักษ์และจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด ซึ่งค้างคาวดังกล่าวนี้จะทยอยบินกลับถ้ำในช่วงเวลาเช้า ทำให้ช่วงเย็นตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป บริเวณจุดบริการนักท่องเที่ยวของ อ.ภูผาม่าน แห่งนี้นั้นจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาริต่างพากันมาจอดรถและจับจองสถานที่ชมความสวยงามของค้างค้าวที่จะบินออกจากถ้ำ หากนับตัวแรกจนถึงตัวสุดท้ายจะใช้เวลาไม่ถึง 30 นาที
ชมต้นเฉลียงทอง ที่วัดเฉลียงทอง
“ในจุดบริการนักท่องเที่ยวดังกล่าวนี้กำลังตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ต่างช่วยกันดูแลความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่ที่ทุกวัน ซึ่งหากนักท่องเที่ยวสนใจที่จะเดินทางมาชมค้าวคาวนับล้านตัวแห่งนี้หากมาก่อนเวลาก็สามารถที่จะชมอีกหนึ่งปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่เป็นจุดสำคัญและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชุมชนคือต้นเฉลียงทอง ที่วัดเฉลียงทอง บ.เซินเหนือ ต้นไม้คู่บ้านคู่เมืองของชาวภูผาม่าน ที่ชาวบ้านเล่าต่อกันมาว่ามีอายุหลายร้อยปี ที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุดที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน และที่สำคัญต้นเฉลียงทองต้นนี้เป็นต้นไม้ที่มีผึ้งหลวง บินมาทำรังทุกปี ตั้งแต่ในช่วงเดือน พ.ย.-ก.พ. เฉพาะต้นเฉลียงทองต้นนี้มีผึ้งหลวงบินมาทำรังในแต่ละปีรวมหลายร้อยรัง เพราะในอดีตนั้น อ.ภูผาม่าน เป็นอำเภอที่ต้องส่งน้ำผึ้งป่า ให้กับเจ้านายในอดีต โดยเฉพาะในการส่งให้กับสำนักพระราชวัง และเมื่อมาที่ บ.เซินเหนือแล้ว จะต้องพลาดไม่ได้กับการเลือกชมผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้าย ที่ถูกนำมาตัดเป็นเสื้อผ้าฝ้ายที่สวยงามและมีลวดลายเฉพาะตัว ที่สื่อถึงความเป็นชาวภูผาม่านที่มีเสน่ห์ และเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร”
อิ่มอร่อยกับ "หลามไก่" ทำจากไม้ไผ่ สูตรเด็ดของคนในชุมชน
นายอำเภอภูผาม่าน กล่าวต่ออีกว่า เมื่อเที่ยวชมความสวยงามทางธรรมชาติ และความมหัศจรรย์ ในชุมชน ที่ถูกนำมาถ่ายทอดเรื่องราวและนำเสนอในความเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านแล้ว ขาดไม่ได้คือเมนูประจำถิ่นที่คนภูผาม่าน นั้นท้าให้ลองชิม นั่นก็คือหลามไก่ ที่ทำจากไม้ไผ่ ที่เป็นสูตรเด็ดของคนในชุมชน ปัจจุบันมีการทำเพื่อรับประทานและจำหน่ายกันอย่างหลากหลาย ซึ่งในการทำหลามไก่นั้นเริ่มจากการเลือกไก่พื้นเมืองหรือที่เราเรียกว่าไก่บ้านขนาดตัวละ 1 กก. ถอนขน ทำความสะอาดแยกเครื่องใน หัว ขา และชิ้นส่วนเนื้อ กระดูก และ ปีก ออกเป็นชิ้นๆ ตำเครื่องแกงที่เป็นสูตรเฉพาะตัวของชุมชนที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทั้งพริกแห้ง หอมแดง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ที่ต้องตำรวมกันให้ละเอียดที่สุด ปรุงรสด้วยเกลือ และซอสปรุงรส ในสัดส่วนที่พอดีกับไก่ 1 กก.
“ขั้นตอนต่อมาคือการก่อไฟในระดับไฟปานกลาง ตัดกระบอกไม้ไผ่มา 2 ท่อน ท่อนแรก ทำแบบข้าวหลามคือตัดปลายกระบอกออก 1 ข้าง และห้ามล้างเด็ดขาด นำไก่และพริกแกงที่โขกไว้มาผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ ปิดปากกระบอกด้วยใบเตยเพื่อให้กลิ่นของใบเตยนั้น เข้าไปผสมกับกลิ่นหอมของเยื้อไม่ไผ่และเครื่องเทศที่เตรียมไว้ ก่อนที่จะนำไปเผาไฟที่ต้องค่อยหมั่นดูตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ไม้ไผ่ไหม้ในบางจุด โดยในการเผาไฟนั้นใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็จะสุกแบบพอดี เมื่อเปิดฝาใบเตยออกมารับรองได้ว่าต่อมรับรสอาหารของร่างกายนั้นพร้อมที่จะจู่โจมเข้าไปชิมทันที”
นายอำเภอภูผาม่าน กล่าวในตอนท้ายว่า เมื่อเปิดฝาใบเตยออกแล้ว ให้นำกระบอกไม้ไผ่อีก 1 กระบอกที่เตรียมไว้ ผ่าเฉพาะตรงกลางออก ตามแนวยาวของไม้ไผ่และความกว้างขนาดพอดี เพื่อให้กระบอกไม้ไผ่นี้นั้นได้เป็นจานรองสำหรับการเสริฟหลามไก่ ซึ่งเมื่อผ่าออกแล้ว ก็เทหลามไก่จากกระบอกไม้ไผ่ที่เราเผาได้ที่ ใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่ที่เราทำเป็นจานรองทันที โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี เสริฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ดของชุมชน จึงเป็นอีกเมนูให้นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนมาลองชิมที่ อ.ภูผาม่าน ได้ทุกวัน
