บุกแต่เช้าทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย-ของต้องห้าม ตรวจฉี่ผู้คุมขัง
บุกแต่เช้าทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ตรวจหาสิ่งผิดกฎหมาย-ของต้องห้าม ตรวจฉี่ผู้คุมขัง ป้องปรามการลักลอบนำยาเสพติดสิ่งผิดกฎหมายเข้าเรือนจำ “สมศักดิ์” สั่งตรวจเข้มทุกเดือนครอบคลุมที่คุมขังทุกแห่งทั้งจังหวัด
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 7 พ.ย.2562 ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายอดุลย์ ประยูสิทธิ์ ผอ.ปปส.ภ.4 ,พ.ต.อ.นพดล เพ็ชร์สุทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และนายอลงกต วรกี ปลัดจังหวัดขอนแก่น สนธิกำลังร่วมตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองและ ปปส.รวมกว่า 120 นาย เข้าทำการ จู่โจมตรวจค้นภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งสัญญาณให้ผู้ที่ถูกคุมขังรวมกว่า 1,900 คนเข้ารับการตรวจค้นกับทางเจ้าหน้าที่แบบตัวต่อตัว ก่อนที่จะให้ทุกคนมารวมตัวบริเวณลานกีฬาด้านหน้า เพื่อทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ขณะที่กำลังอีกส่วนหนึ่งทำการตรวจค้นโรงนอน โรงอาหาร อาคารฝึกฝีมือ เรือนพยาบาล อาคารเรียน รวมไปถึงทุกจุดภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษ เพื่อทำการตรวจหาสิ่งของต้องห้าม สิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติดภายในเขตควบคุม ซึ่งจากการตรวจค้นไม่พบยาเสพติด สิ่งของต้องห้ามรวมไปถึงสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การจู่โจมปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมายเป็นแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จ.ขอนแก่น ได้กำหนดแผนปฎิบัติงานอย่างต่อเนื่องทุกเดือน เน้นหนักไปในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยง ครอบคลุมทุกชุมชน หมู่บ้าน รวมไปถึงสถานที่คุมขังผู้ต้องหา และผู้ที่ต้องโทษ ทั้งที่เรือนจำ,ทัณฑสถานและศูนย์ฝึกอบรม ทั้งหมดจะต้องถูกสุ่มตรวจตามมาตรการที่ทางจังหวัดได้กำหนดไว้ทุกเดือน
“การตรวจค้นนั้นเป็นสิ่งที่กระตุ้นเตือนให้ทุกคนนั้นรู้ว่าจังหวัดขอนแก่น นั้นเอาจริงในมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ชุมชนรวมไปถึงผู้ที่เดินทางมาที่ขอนแก่นนั้นได้ทราบว่าขอนแก่นเอาจริงในทุกมาตรการเพื่อสร้างความปลอดภัยและสร้างพื้นที่สีขาวให้เกิดขึ้นครอบคลุมทั้ง 26 อำเภอของจังหวัด อย่างไรก็ตามจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่าขอนแก่นมีสถิติการจับกุมในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมากที่สุดในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน ดังนั้นทุกมาตรการที่จังหวัดซึ่งได้ประสานการทำงานร่วมกันกับทุกฝ่ายจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติดที่พยายามนำยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ที่เราจะต้องกวดขัน จับกุมและปราบปรามอย่างต่อเนื่องและจริงจังทุกวัน”
