เมืองขอนแก่น พบโครงกระดูกมนุษย์พร้อมข้าวของเครื่องใช้อายุกว่าพันปี (มีคลิป)
พบโครงกระดูกมนุษย์ พร้อมเครื่องปั้นดินเผาและกำไลข้อมืออายุเกือบพันปี ในสภาพสมบูรณ์ ชาวบ้านนิมนต์พระมาสวดถอน ก่อนนำไปเก็บรักษาไว้ที่วัด รอเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ พร้อมเตรียมนำบรรจุเป็นสิ่งของมีค่าคู่ชุมชน ขณะที่ผู้ที่ค้นพบครอบครัวถูกเลขท้ายสองตัวทั้งบ้าน จึงเชื่อว่ามนุษย์โบราณให้โชค
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 พ.ย.2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่วัดเทพปูรณาราม บ.หนองบัวดีหมี ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ยังคงมีประชาชนจำนวนมากทยอยกันมาดูโครงกระดูกมนุษย์โบราณ เครื่องปั้นดินเผา และกำไลข้อมือ รวมไปถึงเครื่องประดับต่างๆที่ชาวบ้านบ้านหนองบัวดีหมีทำการขุดค้นพบเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ( 4 พ.ย.) ก่อนที่จะถูกนำมาเก็บรักษาไว้ที่วัดเพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำการตรวจสอบ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจสอบของทีมข่าวพบว่า ทางวัดได้มีการเก็บโครงกระดูกและสิ่งของเครื่องใช้ที่ค้นพบออกเป็น 2 ห่อหุ้มด้วยผ้าขาวบาง โดยห่อแรกเป็นการเก็บรวบรวมเฉพาะโครงกระดูกร่างกายของมนุษย์ที่อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ใส่รวมกันกับกำไลข้อมือและเครื่องประดับต่างๆ ขณะที่อีกห่อนั้นใส่เฉพาะเครื่องปั้นดินเผาและข้าวของเครื่องใช้ที่ถูกค้นพบ โดยมีพระราชประสิทธิคุณ รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น คอยให้ข้อมูลและพบปะกับญาติโยม ที่มาชมโครงกระดูกมนุษย์โบราณ ที่ต่างเชื่อกันว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์ที่มีอายุกว่า 1,000 ปีที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบมา
นายจินดา ชอบค้า อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.3 ต.บ้านดอนเมะเกลือ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ เจ้าของร้านทรเนื้อย่างเกาหลี สาขาที่ 26 จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ค้นพบบอกว่า ที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่รวม 2 ไร่ ตั้งอยู่ก่อนถึงสะพานข้ามแม่น้ำชี ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น โดยเปิดเป็นร้านจำหน่ายหมูกระทะ สาขาที่ 26 ก่อนที่จะทำการค้นพบนั้นได้มีการจ้างช่างในชุมชน มาทำการขุดหลุมเพื่อทำบ่อน้ำทิ้งเพิ่มเติมของทางร้าน จนกระทั่งทีมช่างขุดหลุมลึกลงไปประมาณ 1.50 เมตร ก็พบกับโครงกระดูก ข้าวของเครื่องใช้โบราณ และเครื่องประดับสมัยโบราณ จึงได้มาแจ้งให้กับตนเองได้ทราบ ก่อนที่จะมีการประสานงานไปยังผู้ใหญ่บ้าน,เจ้าหน้าที่ตำรวจและนายกเทศมนตรีตำบลท่าพระ ให้มาทำการตรวจสอบ
นายจินดา ชอบค้า เจ้าของที่ดินที่ขุดพบ
เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงได้ใช้เชือกกั้นพื้นที่ห้ามคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในบริเวณ ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยกันขุดลงไปประมาณ 1.80 เมตร กว้างประมาณ 95 ซม.ก็พบกับโครงกระดูกมนุษย์ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายในสภาพที่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเครื่องประดับประเภทกำไลและแหวนที่น่าจะทำจากเปลือกหอย หรือหยก ทั้งชิ้น อยู่ในสภาพที่มีสีขาวสวยงามหาชมได้ยาก ชาวบ้านจึงช่วยกันขุดนำมาวางไว้บนพื้นดิน ก่อนที่จะทำความสะอาด จากนั้นได้นิมนต์พระมาสวดถอด และนำไปเก็บรักษาไว้ที่วัดเทพปูรณาราม เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ ในขณะที่หลุมที่ขุดนั้นขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งห้ามขุดเพิ่ม เพื่อรอให้ผู้ที่เชี่ยวชาญมาทำการตรวจสอบ
ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นให้ความร่วมมือกับทางราชการในการขุดค้นเพื่อทำการศึกษา แต่หากมีผู้ที่ไม่หวังดีเข้ามาขุดค้นเพื่อกระทำการที่ผิดกฎหมาย หรือเข้ามาขุดหรือชมพื้นที่ขุดเพื่อกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดนั้นห้ามเด็ดขาด แต่ก็ห้ามได้ในระดับหนึ่งเพราะขณะนี้มีผู้ที่ทราบข่าวต่างพากันนำเครื่องเซ่นไหว้และดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้อย่างต่อเนื่องแล้ว
ขณะที่ครอบครัวเองนั้นก่อนที่จะพบกับโครงกระดูกมนุษย์โบราณและสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆนี้นั้นได้รับโชคเป็นรางวัลเลขท้าย 2 ตัว ในงวดที่ผ่านมา ซึ่งถูกกันทั้งบ้าน จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นมนุษย์โบราณมาให้โชคทำให้งวดที่จะถึงนี้คงซื้อเลขที่บ้านคือ 172 ม.7 เพื่อหวังที่จะรับโชคจากการขุดค้นพบดังกล่าวด้วย
พระราชประสิทธิคุณ รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น
ขณะที่ พระราชประสิทธิคุณ รองเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า เจ้าของที่ดิน ได้มานิมนต์พระที่วัด เพื่อไปทำการประกอบพิธีสวดถอน ตามความเชื่อของคนในชุมชน และมอบโครงกระดูก เครื่องประดับและสิ่งของต่างๆที่ค้นพบ มาทำการเก็บรักษาไว้ที่วัด เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาทำการตรวจสอบ ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวที่ค้นพบนั้นเดิมเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว ชื่อว่าบ้านโนนสมโฮง เมืองชลบท ที่ตั้งของวัดเทพปูรณารามปัจจุบันนี้นั้นคือศาลากลางบ้าน โดยชุมชนนั้นจะอยู่ติดกับแม่น้ำชี ที่ที่ค้นพบนั้นคนเฒ่าคนแก่บอกว่าเป็นชุมชนขนาดใหญ่ที่มีอาชีพหาปลาในแม่น้ำชีมาจำหน่าย และทำเรื่องเครื่องปั้นดินเผา ซึ่งสิ่งของที่ค้นพบนั้นยอมรับว่ามีความสมบูรณ์มาก เพราะด้วยสภาพดินที่ขุดค้นพบนั้นมีลักษณะเป็นดินดำ อุ้มน้ำ จึงทำให้สิ่งของต่างๆนั้นอยู่ด้วยความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะเครื่องประดับพวกกำไล และหยก ที่สมบูรณ์ สวยงาม หาชมได้ยาก แต่ทั้งนี้คงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญมาทำการตรวจสอบในภาพรวม อย่างไรก็ตามหากการตรวจสอบแล้วเสร็จชุมชนก็จะยกให้เป็นสมบัติของชาติและต้องการที่จะนำมาเก็บรักษาไว้ ภายในวัดเพื่อทำเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 4 ได้ลงพื้นที่มาทำการตรวจสอบโครงกระดูกและสิ่งของที่ค้นพบ ในภาพรวมทั้งหมด เพื่อทำการบันทึกข้อมูล และรอให้เจ้าหน้าที่จากกรมศิลปากร มาทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
