ขอนแก่น ทำแผน ส.อ.ชิงทอง437บาทในร้านทองบนห้างสรรพสินค้า ยอมรับทำเป็นเครือญาติวางแผนมาล่วงหน้า (มีคลิป)   


8 ตุลาคม 62 13:40:34

    เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 8 ก.ย. ที่หน้าห้างร้านทองแม่ทองพูล ในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.มาโนช สุภาพพูล ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.สุทธิพงศ์ เป็กทอง รองผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ รอง ผบก. สส.ภ.4 พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย ผกก.สภ.อ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.เขมรินทร์ พิศมัยย ผกก.ตม.จ.หนองคาย และชุดปฏิบัติการสืบสวน บก.สส.ภ.4 ได้ร่วมกันควบคุม ส.อ.เรืองศักดิ์ หรือนะ พันธ์ทอง อายุ 60 ปี อดีตทหารพลร่มก่อเหตุปล้นร้านทองแม่ทองพูล ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ขอนแก่นกวาดทองคำรูปพรรณน้ำหนักรวม 437 บาท หลบหนีไปได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าหน้าที่ สปป.ลาวจับกุมตัวได้ส่งให้ตำรวจภูธร ภาค 4 นำมาสอบสวนและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมากควบคุมอย่างแน่นหนา ใช้เวลาทำแผนประกอบคำรับสารภาพประมาณ 30 นาที 

    โดยได้ให้ ส.อ.เรืองศักดิ์ ไปชี้จุดในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาขอนแก่น 1.ทางเข้าบิ๊กซี 2.ทางขึ้นบันไดเลื่อน 3.ห้องน้ำที่มีการเตรียมตัว 4.ศูนย์อาหารที่นั่งรอ 5.ที่ร้านทองที่ได้ถือปืนยืนคุมเชิงให้นายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์ กวาดทองคำรูปพรรณในตู้โชว์ไปจำนวนน้ำหนักรวม 437 บาท 4.จุดหลบหนีทิศทางลงบันไดเลื่อน 5.ทางออกประตูหลัง 6.ทางออกด้านข้างห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาขอนแก่น 7.ที่จอดรถ จยย. 8.จุดทิ้งรถ จยยย. 

    จากนั้นได้ควบคุม ส.อ.เรืองศักดิ์มาแถลงข่าวที่หน้าห้างร้านทองแม่ทองพูล โดยมีทรัพย์สินที่ติดตามคืนแก่ผู้เสียหายได้ คือ 1. ทองคำรูปพรรณน้ำหนักรวม 202 บาท  2.ทองคำแท่ง(หลอม) และทองรูปพรรณรวม 51.44 บาท 3.เงินสด 380,000 บาท 4.เงินสดสกุลกีบ 829,000 กีบ (คิดเป็นเงินไทย 3,316 บาท) 5.รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮุนได 1 คัน 5.รถ จยย. 1 คัน 6.โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง รวมทรัพย์สินที่ติดตามคืนให้ผู้เสียหาย 6,062,556 บาท 

    พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า กรณีเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.20 น. ได้เกิดเหตุคนร้าย 2 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์โดยมีอาวุธปืน และลูกระเบิด ที่ห้างทองแม่ทองพูลในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาขอนแก่น ได้ทองคำรูปพรรณจำนวน 104 เส้น น้ำหนักรวม 437 บาท มูลค่า 9,308,000 บาท ในการสืบสวนได้ทราบตำหนิรูปพรรณคนร้าย คือ นายชัยมงคลคนที่เข้าไปกวาดทองคำรูปพรรณ และ ส.อ.เรืองศักดิ์คนพกระเบิด พร้อมกับถือปืนพกสั้นยืนคุมเชิงอยู่ในร้านทอง หลบหนีไปทาง อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ

    เมื่อวันที่ 27 ก.ค. เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสคนร้ายนำทองไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.บ้านแท่น เมื่อชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า นายสุพจน์ เพชรรังสี อายุ 52 ปี และนายไพรวัน ญาบัณฑิต อายุ 53 ปี ได้ใช้รถยนต์กระบะ 4 ประตูโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำทะเบียน บล 6213 อุดรธานี พา ส.อ.เรืองศักดิ์ และนายชัยมงคล ออกไปขายทองคำ จากนั้นนำไปซุกซ่อนฝังดินไว้ที่สวนยางพาราท้ายหมู่บ้านอ่างทอง หมู่ 8 ต.บ้านดอน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และมอบให้นางจันทรา โปลาแสน ชาว จ.ชัยภูมิ บางส่วน เจ้าหน้าที่ยึดคืนได้ทั้งหมด

    พร้อมกับติดตามจับกุมนายสุพจน์ นายไพรวัน ที่ได้พา ส.อ.เรืองศักด์ นายชัยมงคล ออกไปขายทองคำและหลบหนีได้ที่ จ.อุดรธานี ซึ่งนายสุพจน์ได้ขับรถกระบะพา ส.อ.เรืองศักดิ์ และนายชัยมงคลหลบหนีไปยัง สปป.ลาว โดยผ่านช่องทางธรรมชาติที่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย ซึ่งนายสุพจน์ นายไพรวัน และ นางจันทรา ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นจับกุมไปก่อนแล้ว เพื่อดำเนินคดี "ร่วมกันรับของโจร และช่วยให้ผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม

    และในวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตำรวจภูธร ภาค 4 ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย ว่า ส.อ.เรืองศักดิ์ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังงหวัดขอนแก่น ที่ 266/2562 ลงวันที่ 27 ก.ค. 62 ข้อหา "ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ" ได้ถูกส่งตัวกลับมายังประเทศไทยที่บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว จ.หนองคาย เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.4 จึงได้จับกุมตัวพร้อมยึดทรัพย์สินซึ่งได้มาจากการก่อเหตุได้แก่ทองคำแท่ง(หลอม) จำนวน 2 แท่ง น้ำหนัก 494 กรัม, สร้อยคอทองคำ จำนวน 2 เส้น หนัก 152 กรัม,กำไรข้อมือทองคำ 3 วง หนัก 136 กรัม ,เงินสด 280,000 บาท เงินสดสกุลกีบ จำนวน 829,000 กีบ,โทรศัพท์มือถือ และรถยนต์เก๋ง 1 คัน ซึ่งเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการก่อเหตุชิงทรัพย์ และนำทองคำบางส่วนไปขายเพื่อนำเงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดที่ปล้นทรัพย์ห้างทองแม่ทองพูลครั้งนี้มีศักดิ์เป็นเครือญาติและวางแผนกันไว้แล้ว ซึ่งมีจำนวน 5 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ 4 คน คนที่ยังหลบหนีอยู่ คือนายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์ ทราบว่าได้หลบหนีมาจาก สปป.ลาวเข้ามาอยู่ในฝั่งไทยแล้ว ยังหลบซ่อนตัวอยู่ในเขตชายแดนฝั่งไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าจะจับตัวได้ในเร็วๆนี้.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS