ขอนแก่นฝนตกแต่ยังแล้ง!   


10 สิงหาคม 62 12:17:32

ขอนแก่นฝนตกยังไม่พ้นวิกฤติภัยแล้ง แหล่งน้ำทุกแห่งแห้งขอด รมต.ช่วยเกษตรฯสั่งการทำฝนหลวงให้ประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้อย่างเร่งด่วน พร้อมรักษาระบบนิเวศของลำน้ำ 

    เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 10 ส.ค. นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยสถานการณ์ภัยแล้งใน จ.ขอนแก่น ว่า ขณะนี้จังหวัดได้ประกาศเขตภัยพิบัติแล้งแล้วถึง 24 อำเภอจากทั้งหมด 26 อำเภอ 2  อำเภอที่รอประกาศภายในสัปดาห์นี้ คือ อ.บ้านฝาง และ อ.หนองเรือ  แลเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์เดิน พร้อมคณะ  ได้มาลงพื้นที่มาตรวจสถานการณ์ภัยแล้งใน จ.ขอนแก่น โดยจุดแรกได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนประชาชน อ.ชุมแพ อ.อุบลรัตน์ และอ.ซำสูง พร้อมกล่าวว่า สิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนที่สุดตอนนี้ในการแก้ปัญหาภัยแล้งในจังหวัด คือ การจัดหาแหล่งน้ำเสริมและการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ซึ่งได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แก่ กรมชลประทาน กรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กรมวิชาการเกษตร และกรมการข้าว บูรณาการช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนอย่างเร่งด่วนแล้ว


    นายสมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดขอนแก่นมีพื้นที่ทั้งหมด 6,803,744 ไร่ เป็นพื้นที่เกษตร 4,873,125 ไร่ พื้นที่ชลประทาน 195,771 ไร่ หรือประมาณร้อยละ 3 ของพื้นที่ทั้งหมด มีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 1 แห่งคือ เขื่อนอุบลรัตน์ ความจุเก็บกัก 2,431 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบัน (9 ส.ค.62) มีปริมาณน้ำ 541 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 22 ของความจุเก็บกัก อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย โดยระบายน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภคและรักษาระบบนิเวศวันละ 0.5 ล้าน ลบ.ม. และมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 14 แห่ง ความจุรวม 106 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 29 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯรวมกันทั้งหมด มีน้ำใช้การได้เพียง 13 ล้าน ลบ.ม. อ่างขนาดกลางที่มีความจุน้อยกว่าร้อยละ 30 มี 10 แห่ง ส่วนสถานการณ์น้ำท่าแม่น้ำชีตอนบนและแม่น้ำชีตอนกลางอยู่ในเกณฑ์น้ำน้อย สำหรับแม่น้ำชีตอนล่างอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง เพราะน้ำค่อนข้างน้อย ซึ่งสาเหตุที่อ่างขนาดใหญ่และขนาดกลางมีน้ำน้อย เนื่องจากฝนตกต่ำกว่าค่าปกติ โดยเฉพาะในจังหวัดขอนแก่นมีฝนตกสะสม (1 ม.ค.- 9 ส.ค. 62) วัดได้เพียง 507.8 มิลลิเมตร ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยถึงร้อยละ 59

    ด้านนายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากสภาพน้ำในลำน้ำชีตื้นเขินด้วยการระบายน้ำจากเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น พร้อมทั้งได้เพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนมหาสารคามและเขื่อนร้อยเอ็ด เพื่อให้สถานีสูบน้ำของการประปาที่อยู่ตลอดสองฝั่งลำน้ำชีนำน้ำไปใช้ผลิตน้ำประปา และเพื่อการอุปโภค-บริโภค ตลอดจนยังเป็นการรักษาระบบนิเวศของลำน้ำ อีกทั้งได้นำเครื่องจักรเข้าไปขุดลอกเปิดทางน้ำ พร้อมกับส่งเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือ และลงพื้นที่ชี้แจงสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน โดยได้ขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้ชะลอการปลูกข้าวออกไปก่อน ส่งผลให้ในปัจจุบันสถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีดีขึ้น ในปัจจุบันจึงได้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนลำปาวลงลำน้ำชี เพื่อสำรองน้ำไว้สำหรับการอุปโภค-บริโภค ในฤดูแล้งหน้า ยืนยันว่า ปัจจุบันไม่มีพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำเพื่อการประปาและจะมีน้ำเพียงพอตลอดถึงฤดูแล้ง 2562/63

    "สำหรับการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย ได้ส่งน้ำหน้าฝายหนองหวายกว่า 10 ล้าน ลบ.ม. ไปช่วยนาข้าวในอำเภอน้ำพองกว่า 160,000 ไร่ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือนาข้าว 4,200 ไร่ ที่ ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำทุ่งพังพืด เข้าสู่บ่อพักน้ำดิบ สำหรับผลิตประปาช่วยเหลือราษฎร ต.หัวทุ่ง อ.พล จำนวน 430 ครัวเรือน นอกจากนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง ยังได้เพิ่มน้ำเหนือเขื่อนมหาสารคาม เพื่อให้สถานีผลิตน้ำประปาท่าพระ (หนองบัวดีหมี) ตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่นมีน้ำดิบใช้ผลิตน้ำประปาอีกด้วย"นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข กล่าว. 

ติ๊ก บังอร ขอนแก่น/รายงาน







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS