สรุปแล้วโจรปล้นทอง 437 บาท ฝังไห 202 บาท ให้เมีย 2 บาท ขาย 5 บาท นอกนั้นนำติดตัวหนี   


28 กรกฎาคม 62 15:04:11

ตร.เร่งสอบปากคำ 2 คนร้าย ร่วมแก๊งปล้นทองห้างดังเมืองขอนแก่นฝากขังศาลข้อหารับของโจร ช่วยเหลือผู้กระทำความผิด  ประสานทางการลาวล่าตัวคนร้าย 2 ราย บุกเข้าไปใช้ปืนจี้พนักงานในร้านทองกวาดทองคำในตู้โชว์น้ำหนัก 437 บาท นำไปฝังดินในสวนยางพารา  202 บาท ที่เหลือนำติดตัวช่วงหลบหนี

   กรณีเมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 19.30 น. ได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ร่วมกันชิงทรัพย์ร้านทองแม่ทองพูล ภายในห้างบิ๊กซีสาขาขอนแก่น ถ.มิตรภาพ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้ทรัพย์สินเป็นทองคำรูปพรรณหลายรายการ จำนวน 109 เส้น น้ำหนักรวม 437 บาท มูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท  และได้หลบหนีไป เมื่อปรากฏตามภาพข่าวตามสถานีต่างๆ และทางสื่อโซเชียลเป็นจำนวนมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ทราบตำหนิรูปพรรณของคนร้ายก่อเหตุทิ้งรถ จยย.ไว้ที่ด้านหลังห้างสรรพสินค้าที่ก่อเหตุ มีรถยนต์กระบะโตโยต้า สีดำ ทะเบียน บล 6213 อุดรธานี มารับตัว 2 คนร้าย พร้อมทองคำที่ชิงทรัพย์มาได้ไปที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ขายทองคำได้ส่วนหนึ่งประมาณ 90,000 บาท จากนั้นขับรถหลบหนีไป จ.อุดรธานี และตำรวจจับได้ 2 คน ที่เข้าร่วมแก๊ง  ส่วนคนร้ายที่เข้าไปจี้ชิงทรัพย์ในห้างทองดังกล่าวได้หลบหนีไป สปป.ลาว ที่ด่านชายแดน จ.หนองคาย ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว


    ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ก.ค. ที่ สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.จิรัฐเกียรติ ศรวิเศษ สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ร้อยเวรเจ้าของคดี พ.ต.ท.ไพรวัลย์ อายุวงษ์ รอง ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.4  พ.ต.ท.เอกลักษณ์  บุญแสงเจริญ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น ได้ควบคุม นายสุพจน์ เพชรรังสี อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 8 ต.บ้านดอน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และ นายไพรวัน ญาบัณฑิต อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 / 2 หมู่ 5 บ้านอุ่มจาน อ.ประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี  ซึ่งถูกดำเนินคดีข้อหารับของโจร และ ช่วยเหลือผู้กระทำความผิด เพื่อฝากขังศาลจังหวัดขอนแก่นผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ทั้งนี้นายสุพจน์และนายไพรวันได้ขับรถกระบะคันดังกล่าวไปถูกจับกุมบริเวณถนนเลี่ยงเมืองสี่แยกบายพาสต์บิ๊กซีทางไป จ.สกลนคร ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อเย็นวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา

    จากการสอบสวนนายไพรวัน ทราบว่า เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา นายชัยมงคล หรือ ชัย ใจบุญอุปถัมภ์ ที่เป็นญาติฝ่ายภรรยา อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 111 หมู่ 4 ต.บ้านดอน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ  และ ส.อ.เรืองศักดิ์ พันธ์ทอง อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 277 หมู่ 1 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี  อดีตข้าราชการทหารพลร่ม ชาว จ.อุดรธานี ทั้งสองคนก่อเหตุเข้าไปใช้อาวุธปืนจี้พนักงานในร้านทองที่เกิดเหตุ แล้วกวาดทองคำรูปพรรณได้จำนวนมากถึง 109 เส้น น้ำหนักรวม 437 บาท เพื่อขอพักอาศัยที่บ้านของนายไพรวัน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ กระทั่งเช้าวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา นายชัยได้ชักชวนให้นายไพรวัน กับนายสุพจน์ ขับรถไปส่งนายชัย และ ส.อ.เรืองศักดิ์ ที่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย จึงได้ตกลงไป โดยใช้รถยนต์คันที่ก่อเหตุ ที่เป็นรถยนต์ของภรรยานายไพรวัน

    โดยนายชัยเป็นคนขับ และ ส.อ.เรืองศักดิ์นั่งด้านหน้าข้างคนขับ ส่วนนายไพรวันและนายสุพจน์นั่งอยู่บริเวณเบาะหลัง เมื่อขับมาถึง อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ  โดยบอกว่าจะนำทองคำไปขาย เมื่อขายได้แล้วได้ขับรถมาที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น พร้อมหยิบเงินสดมาให้นายไพรวัน 2 พันบาท เพื่อเป็นค่าจ้างในการมาส่ง และหยิบเงินสดให้นายสุพจน์ 21,000 บาท จึงมุ่งหน้าไป อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย นายชัยและ ส.อ.เรืองศักดิ์ได้ลงจากรถ และเดินไปที่ท่าน้ำดังกล่าว ได้นั่งเรือข้ามฝั่งไปยัง สปป.ลาว หลังจากนั้น นายสุพจน์และนายไพรวันก็เดินทางกลับไปที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกสกลนคร อ.เมือง จ.อุดรธานี ก็ถูกจับกุมทั้งนายไพรวัน และนายสุพจน์

   ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า หลังจาก  2 คนร้ายก่อเหตุปล้นร้านทองที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ริมถนนมิตรภาพ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้ทองคำรูปพรรณนำหนักรวม 437 บาท หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามคนร้ายได้ทั้งหมด 3 คน คือ นายสุพจน์ เพชรรังสี นายไพรวัน ญาบัณฑิต และหญิงสาวอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นภรรยานายไพรวันและเป็นเจ้าของรถกระบะ ส่วนนายชัยเป็นคนที่เข้าไปกวาดทองในร้านทองที่เกิดเหตุ และ ส.อ.เรืองศักดิ์ คนถือปืนคุมเชิงอยู่ในร้าน หลบหนีไป สปป.ลาว ชายแดน จ.หนองคาย  

สองผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างหลบหนี (ซ้าย ส.อ.เรืองศักดิ์ พันธ์ทอง ขวา นายชัยมงคล ใจบุญอุปถัมภ์)

    พล.ต.ต.พรหมณัฏฐเขต ฮามคำไพ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีล่าสุดว่า ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ทั้ง สภ.เมืองขอนแก่น, สืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น และ บก.สส.ภ.4 ร่วมกันติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุปล้นร้านทอง กระทั่งสามารถจับกุมได้ 3 คน ส่วนอีก 2 คนที่หลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานทางการ สปป.ลาว เพื่อขออนุญาตเข้าพื้นที่ไปติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่เหลือแล้ว คาดว่าน่าจะได้ตัวเร็วๆนี้ ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุที่จับได้ทั้ง 3 คน ขณะนี้คุมขังอยู่ที่ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อรอสอบปากคำเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธอยู่ ยอมรับว่าพาหลบหนีแต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ร่วมก่อเหตุปล้นร้านทอง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อไป

    แหล่งข่าวเปิดเผย ว่า ทองคำรูปพรรณที่ปล้นไปได้จากร้านทองในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาขอนแก่น นายชัยและ ส.อ.เรืองศักดิ์ ได้นำใส่ไว้ในไหรวมทั้งหมดมีน้ำหนัก 202 บาท พร้อมกับเขียนข้อความในกระดาษทำนองว่าเป็นสัญญาใจ ถ้าจะมาเอาทองคำในไหต้องมาพร้อมกัน  นำไปฝังไว้สวนป่ายางพารา อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดมาได้ทั้งหมด ส่วนทองคำเป็นสร้อยหนัก 2 บาท ได้มอบให้กับภรรยาของนายไพรวัน และทองคำเป็นสร้อยหนัก 5 บาท ขายที่ร้านทองแห่งหนึ่งใน อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ได้เงินมา จำนวน 90,000 บาท เพื่อนำติดตัวไปกับทั้งสองคน พร้อมทองคำรูปพรรณที่ยังเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่งหลบหนีไป สปป.ลาว.

ติ๊ก  บังอร ขอนแก่น  /   รายงาน







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS