เผยมีผู้ก่อเหตุมากกว่า 2 คน (มีคลิป)   


27 กรกฎาคม 62 17:15:05

เผยมีผู้ก่อเหตุมากกว่า 2 คน  ตร. จัด3ทีมใหญ่ ล่าโจรปล้นทอง ดึงทีมคลี่คลายคดี "เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ" เสริมทัพ

    คืบหน้าเหตุ 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนร่วมกันก่อเหตุปล้นร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ได้ทองคำน้ำหนักรวม 437 บาททองไป ล่าสุด ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ส่งทีมสืบสวนสอบสวนชุดใหญ่ที่คลี่คลายคดี "เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ" ลงพื้นที่ไล่ล่าตัวมาดำเนินคดี เชื่อคนร้ายทำเป็นขบวนการมีมากกว่า 2 คน มีคนขับรถยนต์มารอรับ/คนนำทองไปขายเป็นอีกคน


    ความคืบหน้ากรณี 2 คนร้ายใช้อาวุธปืนลูกโม่ร่วมกันก่อเหตุปล้นร้านทองบนห้าวสรรพสินค้าชื่อดังเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. วันที่ 26 ก.ค.2562 ที่ผ่านมา และทราบเบาะแสของคนร้ายกลุ่มนี้นำทองรูปพรรณไปขายในพื้นที่ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.วันนี้ โดยเจ้าของร้านทองที่รับซื้อได้แจ้งมายังเครือข่ายร้านทองว่าพบทองรูปพรรณของร้านทองแม่ทองพูลที่ถูกปล้นนำมาขายกับทางร้าน พร้อมเข้าแจ้งความลลงบันทึกประจำวันไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4

    ล่าสุด พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดกับผู้สื่อข่าวว่า  หลังเกิดเหตุได้มีคำสั่งระดมทีมสืบสวนและสอบสวนมือดีของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ที่คลี่คลายคดี “เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ” มาร่วมสืบสวนสอบสวนกับชุดสืบสวนของ สภ.เมืองขอนแก่น และ กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น  เรียกได้ว่าคดีนี้มีชุดทำงานหลัก 3 ชุดใหญ่ และแยกย่อยชุดสืบสวนและสอบสวนรวมหลายชุด ทุกชุดมีหน้าที่ทำงานที่คู่ขนานกันไปและสอดคล้องกัน 

    ซึ่งขณะนี้ยืนยันชัดเจนว่าคนร้ายที่มาก่อเหตุชิงทรัพย์ 2 คน คือเข้ามาภายในห้างสรรพสินค้าไปนั่งรอที่ศูนย์อาหารที่ห่างจากร้านไม่ถึง 10 เมตร พอสบจังหวะ หรือที่เรียกว่าช่วงเวลาก่อเหตุ ได้เข้าใช้อาวุธปืนก่อเหตุและชิงทรัพย์ทองคำรูปพรรณไป จากนั้นได้วิ่งลงมาและออกทางประตูด้านหลังเพื่อไปขึ้นรถจักรยานยนต์ และขับหลบหนีไปด้วยเส้นทางถนนสายรอง ก่อนจะนำรถทิ้งไว้ห่างจากจุดก่อเหตุประมาณ 1 กม. ในป่าหญ้าที่บ้านศรีฐานและขึ้นรถยนต์กระบะหลบหนี และเชื่อว่าต้องเป็นรถยนต์ที่มีคนที่ร่วมขบวนการนอกเหนือจาก 2 คนนี้ จอดติดเครื่องรออยู่และรับตัวไปทันทีพร้อมของกลางทองคำรูปพรรณทั้งหมด จนกระทั่งเบาะแสล่าสุดยืนยันว่ามีคนนำทองคำรูปพรรณไปขายที่ อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ที่ จ.ชัยภูมิแล้ว

    พล.ต.ต.ไพโรจน์ กล่าวต่ออีกว่า ได้รับรายงานว่าร้านค้าที่รับซื้อทองคำรูปพรรณไปนั้นยืนยันว่าเป็นทองคำที่ถูกโจรกรรมมาเพราะรหัสที่อยู่ในทอง และตราสัญลักษณ์นั้นเป็นของร้านแม่ทองพูลที่ถูกชิงทรัพย์ไปและเมื่อตรวจสอบภาพจากกล้อวงจรปิดพบว่าคนที่นำทองไปจำหน่ายนั้นไม่ใช่คนที่ลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ จึงเชื่อได้ว่าการก่อเหตุที่อุกอาจครั้งนี้ทำเป็นขบวนการและวางแผนเป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้แกระรอยคนร้ายที่มีความคืบหน้ามาก โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่ทุกจุดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ ลักษณะการก่อเหตุ รถต้องสงสัย จนนำไปสู่การเชื่อมโยงเส้นทางการหลบหนีและการก่อเหตุได้ ทางตำรวจคาดว่าคนที่ก่อเหตุไม่น่าจะใช่คนในพื้นที่ แต่ก็คงให้ข้อมูลมากไม่ได้เพราะจะกระทบกับสำนวนการสืบสวนสอบสวน ซึ่งคดีนี้คนร้ายที่ร่วมในการก่อเหตุน่าจะหลายคน แต่ละคนมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน และรถกระบะโตโยต้าวีโก้ หมายเลขทะเบียน บล-6213 อุดรธานี ที่คนร้ายใช้ในการนำทองไปขายบางส่วนนั้นตรวจสอบแล้วพบว่ามีทะเบียนอยู่จริง ซึ่งทีมสืบสวนตามประกอบเป้าหมายที่เชื่อมโยงกับคดีความดังกล่าวในทุกจุดหมดแล้ว และหากประชาชนมีข้อมูลเบาะแสต่างๆก็สามารถที่จะแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบโดยทันที ทุกข้อมูลจะถูกตรวจสอบอย่างละเอียด และขณะนี้ร้านทองแม่ทองพูล ที่ถูกคนร้ายชิงทรัพย์นั้นได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นแล้ว โดยยืนยันยอดรวมทองคำรูปพรรณที่ถูกชิงทรัพย์ไปน้ำหนักรวม 437 บาทคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 10 ล้านบาท

ดูคลิป







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS