"วันมูหะมัดนอร์ มะทา" เปิดพรรคประชาชาติ สาขาภาคอีสานที่ขอนแก่น (มีคลิป)
พรรคประชาชาติได้เปิดสาขาพรรคแห่งแรกในภาคอีสานที่ จ.ขอนแก่น และเป็นสาขาที่ 3 ของพรรคประชาชาติ ในประเทศไทย ประกาศเลือกตั้งใหม่ จะมี ส.ส.ทั้งในระบบเขตเลือกตั้งและระบบบัญชีรายชื่อ ในภาคอีสาน เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 20 ก.ค.2562 ที่อาคารเลขที่ 88 ม.11 ต.โนนทัน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค และ ส.ส.ของพรรคอีกจำนวนหลายคน ได้เดินทาง ทำพิธีเปิดสาขาพรรคประชาชาติ ซึ่งถือว่าเป็นสาขาแห่งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีนายนาวิน คำเวียง เป็นประธานสาขาพรรคประชาชาติ จังหวัดขอนแก่น มีพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคประชาชาติ มาร่วมกิจกรรมการเปิดสาขากันอย่างคึกคัก
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่าได้เลือกจังหวัดขอนแก่น ให้เป็นที่ตั้งของสาขาพรรคในทางภาคอีสาน เพราะมีความพร้อมในหลายด้าน และจังหวัดขอนแก่นมีความสำคัญทางคมนาคม เพราะเป็นศูนย์กลางและเป็นเมืองหลวงของภาคอีสาน"พรรคประชาชาติ"ไม่ใช่พรรคของคนภาคใต้หรือภาคหนึ่งภาคใดของประเทศไทย โดยเฉพาะเราเป็นพรรคของพี่น้องทั่วประเทศ บนฐานของวัฒนธรรม แต่เรายังไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งภาคอีสานในคราวที่แล้ว ซึ่งเราทราบแล้ว เรามีปัญหาอย่างไร ซึ่งจะต้องแก้ได้อย่างไร โดยตนเชื่อว่าในอนาคตพรรคประชาชาติ จะเป็นพรรคหนึ่งที่จะมีส.ส.ของพรรค ทั้งในระบบเขตเลือกตั้งและระบบบัญชีรายชื่อ อยู่ในทุกจังหวัดของประเทศไทย ซึ่งการทำงานของพรรคนั้นจะยืนอยู่บนหลักของความเป็นธรรมและความเสมอภาคของทุกคน และการต่อสู้ตลอด 2 เดือนที่แล้ว ประชาชนคงจะเห็นแล้วว่าพรรคเราทำงานในระดับชาติและระดับพื้นที่ได้ดีไม่แพ้พรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะการเป็นฝ่ายค้านเราก็สามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี ไม่แพ้พรรคใหญ่ๆ
ส่วนเรื่องที่รัฐบาลจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาที่จะมีขึ้นในวันที่ 25, 26 หรืออาจจะถึงวันที่ 27 ที่จะถึงนี้ ตนอยากขอร้องรัฐบาล ขยายเวลาการอภิปรายและแถลงนโยบายของรัฐบาลออกไปอีก เพราะมี ส.ส.ยากจะพูดถึงปัญหา ซึ่งมีมากมาย โดยเฉพาะปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนมีเยอะแยะ เพราะ 5 ปีที่ผ่านมาเราไม่ได้มีสภา จึงยังมีความเดือดร้อนรอให้สะสางอยู่เป็นจำนวนมาก โดยพรรคฝ่ายค้านก็คงจะดูนโยบาย หลักๆของรัฐบาลว่า อันไหนทำได้ และอันไหนที่ควรจะปรับปรุงแก้ไข ส่วนการอภิปรายตัวบุคคลที่มาเป็นรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นสิ่งจำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เนื่องจากรัฐมนตรีที่จะมาบริหารงานของกระทรวงต่างๆ นั้น จะต้องมีความรู้ มีความสามารถถึงจะทำให้รัฐบาล ประสบความสำเร็จในการทำงาน ถ้านโยบายดี แต่ว่ารัฐมนตรี ไม่มีความสามารถหรือ รัฐมนตรีเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่เป็นที่เชื่อถือของประชาชน ก็ยากที่จะส่งให้นโยบายนั้นประสบความสำเร็จได้ โดยพรรคฝ่ายค้านขอยืนยันว่า จะไม่อภิปรายกลั่นแกล้งรัฐบาล เพื่อที่อยากจะเป็นรัฐบาลแทน แต่จะขออภิปรายในฐานะผู้ตรวจสอบของประชาชน เพื่อให้รัฐบาลได้มีความรอบคอบ และรัฐบาลต้องไม่ทุจริต ต้องซื่อสัตย์ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์เป็นภาษีของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ
ส่วนประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาขาดคุณสมบัตรในการที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ตนไม่ขอก้าวล่วงขอให้เป็นดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญเอง แต่การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยเรื่องนี้นั้น ก็เป็นการแสดงให้เห็นว่าคดีนี้มีมูล แต่ว่าการวินิจฉัยจะเป็นอย่างไร ก็ขอให้เป็นอำนาจและดุลยพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ดีใจ ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของฝ่ายค้าน อย่างไรก็ตามเรื่องการตรวจสอบว่าท่านประยุทธ์ขาดคุณสมบัติ เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ นั้น ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐธรรมนูญและศาลฎีกาก็เคยตีความมาแล้ว แต่ประเด็นนี้ก็อยู่ที่ดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไร
