ขอนแก่น ชาวเน็ตแชร์ภาพชายเสื้อแดงผู้ต้องหา "พยายามฆ่า" ในชุมชนสนามกีฬา (มีคลิป)
ชาวเน็ตแชร์โฉมหน้าชายเสื้อแดงในคลิป ที่ใช้ไม้ทำร้ายคู่กรณีจนสลบเย็บกว่า 50 เข็ม ในชุมชนสนามกีฬาที่จังหวัดขอนแก่น ไม่พบประวัติเป็นนักเลงอันธพาล ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น ใครให้ที่พักพิงมีความผิดด้วย
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “โซ้น วัล” โพสต์ภาพนิ่งของชายคนหนึ่งมีบาดแผลเย็บหลายแห่งบนในหน้า พร้อมคลิปวีดีโอวินาทีชายเสื้อแดงใช้ไม้ขนาดยาวฟาดคู่กรณีจนสลบคาที่ พร้อมข้อความระบุว่า “ขอคนละหนึ่งแชร์ด้วยนะค่ะยังจับคนร้ายไม่ได้เย็บเกือบร้อยเข็มเค้ายังทำงานไม่ได้และต้องดูแลลูกที่พิการอีกหนึ่งคนตอนนี้ลำบากมาก เหตุเกิดที่ หมู่บ้านหลังสนามกีฬา อ.เมือง จ.ขอนแก่น” ซึ่งต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งตามตัวชายเสื้อแดงมาดำเนินคดี
ล่าสุดชาวเน็ตมีการแชร์ภาพใบหน้าของผู้ต้องหารายนี้ คือนาย ศิริศักดิ์ พลมีเดช อายุ 30 ปี ชาวชุมชนสนามกีฬาสอง ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งผู้สื่อข่าวได้สอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ยืนยันว่าไม่พบประวัติว่าผู้ต้องหารายนี้มีนิสัยอันธพาลแต่อย่างใด ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวันนี้พบว่านายเอ๋ ผู้ต้องหารายนี้มีนิสัยเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร เป็นคนไม่ยอมคน และจากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหารายนี้ในข้อมูลของ สภ.เมืองขอนแก่น ก็ยังไม่พบประวัติเช่นกัน ซึ่งในทางคดีขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับในข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น ซึ่งจากพฤติการณ์ของนายเอ๋นั้น เจตนาทำร้ายที่ศีรษะเพียงจุดเดียว ทางตำรวจจึงมองเจตนาในฐานความผิดดังกล่าว และในส่วนเบาะแสต่างๆที่มีเข้ามาให้ทางตำรวจว่าอยู่นอกพื้นที่ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการสืบสวนตามเบาะแสทั้งหมด เพื่อเร่งติดตามจับกุมตามขั้นตอน และในส่วนของผู้ที่ให้ที่พักพิงกับผู้ต้องหาก็จะมีความผิดตามกฎหมายด้วยเช่นกัน
นาง เพชร พรหมเดช แม่ของนายเอ๋
ด้าน นาง เพชร พรหมเดช อายุ 56 ปี แม่ของนายเอ๋ เปิดเผยว่า หลังจากลูกชายก่อเหตุก็ได้โทรศัพท์มาบอกแม่ว่า ลงมือทำร้ายร่างกายคน เพราะโมโหที่นายชัชวาลไม่ยอมจ่ายเงินค่าจ้างตามหารถจักรยานยนต์ จำนวน 1,000 บาท พร้อมทั้งด่าพ่อล่อแม่ตัวเอง พูดจาเสียๆหายๆให้ครอบครัว จึงเกิดความโมโหใช้กระถางทุบหัว ก่อนจะหยิบไม้ตามไปฟาดนายชัชวาลที่หน้าร้านค้า แล้วหลบหนีไป ขณะนี้อาศัยอยู่ในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ ไม่ต้องเป็นห่วง อยู่สบายดีและยังไม่รู้ว่าจะกลับไปตอนไหน แต่จะกลับไปเองแม่ไม่ต้องห่วง ซึ่งแม่ก็ยังได้บอกลูกชายที่กำลังหลบหนีขอให้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ อย่าหนีปัญหามีอะไรก็มาตกลงเคลียร์กัน เหตุการณ์ที่ทำร้ายกันนั้นเป็นข้อหาเล็กน้อยให้มารับโทษตามกฎหมาย พร้อมกันนี้นางเพชร ยังบอกอีกว่า นายเอ๋เคยติดคุกในข้อหาเสพยาเสพติด และพ้นโทษออกมานานแล้ว และไม่มีพฤติกรรมกลับไปยุ่งเกี่ยวอีก และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเรื่องชกต่อยใครหรือเป็นอันธพาลในชุมชน ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะลูกชายต้องการเงินค่าจ้างหารถจักรยานยนต์จำนวน 1,000 บาท มาจ่ายค่าเช่าบ้านให้แม่ แต่นายชัชวาลไม่ยอมให้แถมด่าทอจึงเกิดเรื่องขึ้น
