ขอนแก่น คืบหน้าคลิปทำร้ายร่างกายกลางโรงพักเมืองขอนแก่น (มีคลิป)   


18 มิถุนายน 62 22:22:58

ความคืบหน้า กรณีทำร้ายร่างกายกลางโรงพักเมืองขอนแก่น ล่าสุดผู้เสียหายเข้าแจ้งความอีก 1 คดี หลังลูกสาววัย 2 ขวบถูกลักพาตัวไป ขณะที่ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ยืนยัน ชายในคลิปที่พาดพิงว่าเป็นทหาร ลาออกจากราชการไปได้ 2 ปี แล้ว

โซเชียลแชร์คลิปทำร้ายร่างกายกันใน สภ.เมืองขอนแก่น

จากกรณีโลกโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันภายในสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย โดยมีข้อความระบุว่า “อุกอาจ"กลางโรงพักเมืองขอนแก่น ทหารยศสิบโท ค่ายมทบ.23ควงแฟนสาว รุมทำร้ายอดีตแฟนและแม่ยายกลางโรงพักโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายและตำรวจ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2562 เวลาประมาณ 20.30 น.พ.ต.ท.ชินพันธ์ สิงแก้ว พนง.สอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นได้เรียกตัวคู่กรณีน.ส.หทัยทิพย์ ชัยสงวน ฝ่ายที่ถูกทำร้ายและอีกฝ่าย น.ส.วันทนา สุระแสง เข้าพบในกรณีซึ่งได้มีการทำร้ายร่างกายกันก่อนหน้านี้1วันที่ตลาดโต้รุ่งเทศบาลนครขอนแก่น ขณะที่ฝ่ายผู้เสียหายได้จอดรถและกำลังลงจากรถ พร้อมแฟนและแม่ ได้มี น.ส.วันทนา หรือนุ่น และแฟนทหาร พร้อมพี่สาวและแม่ คือ สิบโท.ภานุวัฒน์ ซิ้มอิ่ม น.ส.กชพรรณ น้อยพิทักษ์ นาง นลณพรรณ น้อยพิทักษ์ ได้ปรี่เข้ามาทำร้ายร่างกายผู้เสียหายต่อหน้า จนท.ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น อย่างอุกอาจ และจนท.ตำรวจ.ได้ใช้เวลาห้ามและระงับเหตุกว่า5นาที ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเกิดขึ้นในสถานที่แห่งนี้ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง3คนข้อหาทำร้ายร่างกาย คือ น.ส.วันทนา น.ส.กชพรรณ และ นาง นลณพรรณ ผู้เป็นแม่ ส่วน สิบโท ภานุวัฒน์ ซิ้มอิ่ม จนท.ตำรวจ ไม่แจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นที่เคลือบแคลงใจของผู้เสียยิ่งนัก..ฝากเรื่องนี้ถึง ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ด้วยนะครับ ให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าอาคารใหม่ด้วยว่ายังใช้งานได้ดีอยู่มั้ย..กอง.บก.รายงาน /ขอบคุณคลิปจากดาบตำรวจท่านหนึ่ง”

"ยุ้ย" ผู้ถูกทำร้ายเล่าเหตุการณ์และที่มา

ล่าสุดเมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 18 มิถุนายน 2562 นางหทัยทิพย์ ชัยสงวน หรือ ยุ้ย อายุ 31 ปี พร้อมด้วย นางชอบใจ ทรงชัยสงวน อายุ 53 ปี มารดา และนายสุริยนต์ ชื่นเสม อายุ 36 ปี สามีใหม่ ซึ่งอยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัว ร่วมกันเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่คลิปแชร์ในโซเชียลที่มีการทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกันภายใน สภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมาโดยนางหทัยทิพย์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในคืนเกิดเหตุตั้งใจไปไกล่เกลี่ยและพูดคุยกับคู่กรณี ซึ่งเป็นภรรยาใหม่ของอดีตสามี และไปตามคำเชิญของพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อตกลงกันในเรื่องของคดีทำร้ายร่างกายที่มีการแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน แต่เมื่อไปถึงก็พบคู่กรณีอยู่กับอดีตสามี พร้อมด้วยมารดาและพี่สาวฝ่ายสามี รออยู่ก่อนแล้ว  ส่วนตัวเองก็เดินทางไปพบพนักงานสอบสวนพร้อมสามีใหม่และมารดา โดยมารดาอุ้มลูกสาวของตนเองวัย 2 ขวบไว้ในอ้อมกอดด้วย ซึ่งขณะที่กำลังลงจากรถ ก็ถูกภรรยาใหม่ของอดีตสามีตรงเข้ามาทำร้ายร่างกาย ส่วนมารดาก็ถูกอดีตสามีผลักอกจนล้มลงกับพื้นถนน ศีรษะกระแทกพื้นและแย่งเอาลูกสาวไป  โดยมีพี่สาวและแม่ของคู่กรณี มารุมทำร้ายแม่ตนเองต่อ จากนั้นอดีตสามีกับเพื่อนชายก็รุมทำร้ายสามีใหม่ของตนเอง ซึ่งฝ่ายตนเองไม่มีใครสามารถต่อสู้หรือทำร้ายคู่กรณีแม้แต่นิดเดียว เพราะเพียงเปิดประตูรถออกมาก็ถูกทำร้ายไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก เหมือนคู่กรณีมีการวางแผนไว้แล้วว่าใครจะทำร้ายใคร และใครจะเอาตัวเด็กไป กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์มาช่วยเหลือ จากนั้นก็เข้าพบพนักงานสอบสวน แต่เป็นพนักงานสอบสวนรายใหม่ จึงแจ้งความใหม่อีกครั้ง เพื่อเอาผิดคู่กรณี ซึ่งก็คือภรรยาใหม่ของอดีตสามีกับพวกคือมารดาและพี่สาวของอีกฝ่าย ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งภรรยาใหม่กับมารดาและพี่สาวอีกฝ่ายถูกคุมตัวเข้าห้องควบคุม สภ.เมืองขอนแก่น

"ยุ้ย" แจ้งความเพิ่มเติมลูกหาย

และหลังเกิดเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายใน สภ.เมืองขอนแก่นแล้ว ลูกสาววัย 2 ขวบก็หายไป สอบถามอดีตสามีก็ไม่ยอมบอกว่าเอาลูกไว้ที่ไหน บอกเพียงว่าอยู่กับตัวเอง แต่สามีเก่าก็ยังอยู่ด้วยกันแต่ลูกไม่รู้อยู่กับใคร เพราะ ภรรยาใหม่ แม่ยายและพี่สาวภรรยาฝ่ายอดีตสามีก็ถูกจับกุม ควบคุมตัวไว้ในห้องควบคุม จึงไม่รู้ว่าใครจะดูแลลูกสาววัย 2 ขวบ และลูกชายวัย 4 ขวบ สอบถามอดีตสามีหลายๆครั้ง ก็ไม่มีคำตอบว่า ลูกอยู่ที่ไหน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำตอบจากทางอดีตสามีว่าเอาลูกไปไว้ที่ไหน ในคืนเกิดเหตุก็แจ้งกับตำรวจแล้วแต่ทางตำรวจก็ไม่รับฟัง ซึ่งในวันนี้ได้เข้าแจ้งกับตำรวจอีกครั้งในกรณีที่ลูกสาวหาย เพราะถ้าอดีตสามีดูแลก็ต้องเอาลูกมาปรากฏตัวให้เห็น เนื่องจากที่ผ่านมาแม้จะเลิกกันไป แต่ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกไม่เคยกีดกัน โดยก่อนเกิดเรื่อง อดีตสามีเอาลูกชายไปดูแลและอยู่กับภรรยาใหม่ ซึ่งก็มีความสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด พูดจากันด้วยดี ไม่คิดว่าจะมีเรื่องเลวร้ายขนาดนี้  ซึ่งตอนนี้ไม่คิดห่วงเรื่องคดี เพราะห่วงลูกสาวและลูกชายมากกว่า ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร  ตอนนี้ขอเพียงได้เจอหน้าลูกก่อน

แม่ของยุ้ยเล่าเหตุการณ์

ขณะที่นางชอบใจ ทรงชัยสงวน อายุ53 ปี มารดาของน้องยุ้ย กล่าวว่า ไม่เคยทราบเรื่องในครอบครัวของลูกเลย เพราะตัวเองทำธุรกิจรับเหมาก่อรสร้างอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ทราบว่าลูกสาวมีสามีเป็นทหาร มีบุตรด้วยกันสองคน แต่หย่ากันไปเมื่อปลายปี 2561 และทราบว่า แยกทางกันด้วย กระทั่งเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ทราบจากลูกสาวว่า มีคนโพสเฟซบุ๊กด้วยคำหยาบคาย หาว่าเป็นผู้หญิงขายตัว และอีกหลายข้อพาดพิงถึงบิดามารดาด้วย ลูกสาวจึงให้เดินทางมาพบและหารือกันในเรื่องที่จะแจ้งความเอาผิดคนที่โพสต์สร้างความเสื่อมเสียให้ครอบครัวด้วยข้อหาหมิ่นประมาท กระทั่งเดินทางมาหาลูกจึงทราบเรื่อง และเมื่อลูกสาวถูกเรียกไปพบพนักงานสอบสวนในเรื่องที่แจ้งความดำเนินคดีกับคู่กรณีซึ่งก็คือภรรยาใหม่ของอดีตสามีกับคนในครอบครัว ที่สภ.เมืองขอนแก่น จึงเดินทางไปเป็นเพื่อน จากนั้นก็ถูกอดีตลูกเขยแต่งชุดทหารครึ่งท่อน โดยใส่กางเกงสีเขียว สวมเสื้อยืดแขนสั้น ลายพรางทหาร รองเท้าคอมแบททหารสีดำ และมารดาและพี่สาวของภรรยาใหม่ของอดีตลูกเขย ก็มารุมทำร้ายร่างกายพร้อมทั้งแย่งเอาหลานสาววัย 2 ขวบไป ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามคลิปที่แชร์ในโซเชียลทุกอย่าง และขอยืนยันว่า จะไม่มีการให้อภัยหรือยอมความเด็ดขาด ยืนยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด


ผบ.มทบ.23 แจ้งว่า เป็นอดีตทหารลาออก 2 ปีแล้ว 

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่โซเชียลแชร์ว่า"อุกอาจ"กลางโรงพักเมืองขอนแก่น ทหารยศสิบโท ค่ายมทบ.23ควงแฟนสาว รุมทำร้ายอดีตแฟนและแม่ยายกลางโรงพักโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายและตำรวจ และระบุว่าทหารยศสิบโทชื่อ สิบโท ภานุวัฒน์ ซิ้มอิ่มนั้น ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงจาก พล.ต.สมชาย ครรภาฉาย ผบ.มทบ.23 ซึ่งยืนยันว่า ทางฝ่ายทหารคงทำอะไรไม่ได้ เพราะชายดังกล่าวไม่ได้เป็นทหารแล้ว โดยได้ลาออกจากการเป้นทหารไปตั้งแต่ปี 2560 อยากจะให้ขอแก้ข่าวด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอนแก่น แชร์คลิปทำร้ายร่างกายกลางโรงพัก พาดพิงทหาร (มีคลิป) 







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS