ขอนแก่น เขื่อนอุบลรัตน์เลื่อนปล่อยน้ำช่วยเกษตรกรออกไป 2 เดือน (มีคลิป)
เขื่อนอุบลรัตน์ประกาศมีความจำเป็นต้องเลื่อนการระบายน้ำไปช่วยเหลือเกษตรกรออกออกไปอีกเป็นระยะเวลา 2 เดือน เนื่องจากต้องรักษาปริมาณน้ำในเขื่อนไว้ไม่ให้ต่ำกว่า 24 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับสันเขื่อน แต่ปัจจุบัน เขื่อนใช้น้ำก้นอ่างไปแล้ว เหลือปริมาณน้ำที่ใช้การได้ติดลบ 5.41 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนาย ทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย ว่าทางโครงการฯ ได้มีประกาศเรื่องการเลื่อนกำหนดส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูฝน ปี 2562 ออกไปอีกเป็นเวลา 2 เดือน จากกำหนดเดิม ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำเหลือน้อยมาก คือเหลือปริมาณน้ำในอ่างเพียง 572.56 ล้าน ลบ.เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 23.55 ความจุกักเก็บสูงสุด ประกอบกับปัจจุบันได้มีการนำเอาน้ำก้นอ่างไปแล้วจึงเหลือปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้จริง ติดลบ 9.11 ล้าน ลบ.เมตร ( - 9.11) ทั้งนี้เนื่องมาจากปริมาณน้ำที่ไหลเข้าในเขื่อนอุบลรัตน์ ในปี 2561 น้อย จึงไม่สามารถส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกพืชฤดูฝนปี 2562 ตามปฏิทินการเพาะปลูกปกติได้
เพราะปัจจุบันระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ต่ำกว่าระดับน้ำต่ำสุด จึงยังไม่สามารถระบายเพื่อการเกษตรได้ เพราะต้องนำน้ำก้นอ่างที่เหลือมาใช้เพื่อการอุปโภค - บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ให้เพียงพอ จนกว่าจะมีฝนตกลงมา และปริมารน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์เป็นไปตามเกณฑ์ปกติอย่างต่อเนื่องแล้ว จึงจะเริ่มส่งน้ำเพื่อการเกษตรในระบบชลประทานของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวายได้ คาดว่าจะเริ่มส่งน้ำได้ประมาณปลายเดือน กรกฎาคม 2562
นาย ทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย
ด้าน นายพิชิต ธีรโสภณ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการภาคตะวันออกเฉียงเหนือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนอุบลรัตน์ ให้สัมภาษณ์ว่าปัจจุบันทางเขื่อนอุบลรัตน์ก็มีความจำเป็นต้องทำปล่อยน้ำวันละ 5 แสน ลบ.ม.เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับลำน้ำพอง และนำไปช่วยเรื่องการทำน้ำประปาที่จังหวัดขอนแก่น แต่ทาง กฟผ.ก็มีขีดจำกัดคือจะต้องรักษาระดับของปริมาณน้ำในเขื่อนให้เหลือไว้ไม่ต่ำกว่า 24 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง ซึ่งปัจจุบันนี้ เหลือน้ำเพียง 23.7 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่างเท่านั้น เพราะถ้าติดลบมากๆก็จะเกิดปัญหากับสันเขื่อนที่เป็นแกนดินเหนียวได้
