ตร.ชุมแพคุมตัวไอ้หื่นชี้จุดหลังก่อเหตุฉุดสาวท้องหวังข่มขืน (มีคลิป)
ตำรวจ สภ.ชุมแพ คุมตัวไอ้หื่น ชี้พงหญ้า ปล้ำสาวท้องข้างทาง สารภาพตั้งใจจะข่มขืนจริง แต่พลเมืองดีมาช่วยไว้ จึงไม่สำเร็จ อ้างเมาทั้งคู่และหญิงสาวให้ท่า
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 24 เมษายน 2562 ที่บริเวณริมถนนมะลิวัลย์ขาเข้าตัวเมืองชุมแพ ต.ชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ร.ต.อ.ขัตติยะ พลดงนอก รองสว.สอบสวน สภ.ชุมแพ นำตัว นายครรชิต แสนเวียง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14 ม.18 ต.บ้านแก้ง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหาในคดีพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร และพยายามข่มขืนกระทำชำเรา ชี้จุดเกิดเหตุ ที่ได้พยายามทำอนาจารนางสาวเอ (นามสมุติ) อายุ 23 ปี ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา
ก่อนคุมตัวมาชี้จุดเกิดเหตุนั้น เนื่องจากเมื่อเวลา 03.00 น.ช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้ควบคุมตัวคนร้าย ที่กำลังจะทำอนาจารหญิงสาวไว้ได้ที่จุดเกิดเหตุ ในพงหญ้าข้างถนนมะลิวัลย์ ภายหลังรับแจ้งพนักงานสอบสวนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้ไปรับตัวผู้ต้องหา นำส่งพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งพาผู้เสียหายไปสอบสวนและแจ้งความที่ สภ.ชุมแพ
ร.ต.อ.ขัตติยะ พลดงนอก รอง สว.สอบสวน สภ.ชุมแพ กล่าวถึง การคุมตัวผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุว่า จากการสอบสวนผู้เสียหาย ให้การว่า ทำงานเป็นลูกจ้างร้านขายเนื้อย่างเกาหลี ในเมืองชุมแพ หลังเลิกร้าน นายจ้างพาไปเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง เมื่อสถานบันเทิงปิดก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยนายจ้างขับรถเก๋ง ส่วนตัวเองขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ สกูปปี้ไอ สีน้ำเงินเหลือง เดินทางกลับบ้านพักเพียงลำพัง
ผู้เสียหายให้การเพิ่มเติมว่า ขณะขับขี่รถกลับบ้าน ก็มีคนร้าย เป็นชาย2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าประกบข้างขวา และคนซ้อนท้ายกระโดดลงจากรถ และพยายาม จะกระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถของผู้เสียหาย เป็นเหตุให้รถจักรยายนต์ของผู้เสียหายเสียหลักลมลงข้างทาง จึงตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่คนร้ายพยายามจะทำอนาจาร กระทั่งพลเมืองดีผ่านมาพบ และเข้าช่วยเหลือจนได้รับความปลอดภัย
ผู้ต้องหาให้การว่า เพื่อนขับรถยนต์ไปรับมาเที่ยวสถานบันเทิงในเมืองชุมแพ ตระเวนเที่ยวหลายร้าน กระทั่งมาที่สถานบันเทิงชื่อดังของเมืองชุมแพ ก็พบกับหญิงสาว ที่มาเที่ยวในร้านเดียวกันกับเพื่อนสาวอีก 3 คน มีการชนแก้วและพูดคุยกัน แลกแก้วเครื่องดื่มกัน ชนแก้วกัน และเบอร์โทรกันและกัน ประมาณ 1 ชม. จึงชักชวนกันออกมาข้างนอก และขับขี่รถจักรยานยนต์ของฝ่ายหญิงออกไปนอกร้านด้วยกัน โดยผู้ต้องหาเป็นคนขับ ผู้เสียหายนั่งซ้อนท้าย แต่ด้วยความเมา รถจักรยานยนต์เสียหลักตกข้างทาง และจังหวะนั้นจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงพยายามทำอนาจารผู้เสียหายจริง แต่ไม่สำเร็จเพราะผู้เสียหายตะโกนขอความช่วยเหลือ มีพลเมืองดีมาพบและช่วยเหลือ จึงลงมือไม่สำเร็จ
ซึ่งภายหลังการสอบสวนได้แจ้งข้อหา พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร และพยายามข่มขืนกระทำชำเรา ในส่วนคำให้การของผู้เสียหายว่ามีคนร้ายอีกคนนั้น ไม่ได้นิ่งเฉยยังต้องสืบสวนขยายผลหาตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกับผู้ต้องหารายแรก โดยจะขอความร่วมมือจากสถานบันเทิง เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด นำมาประกอบสำนวนการสอบสวน ว่าขณะที่ผู้เสียหายขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากร้านไปคนเดียวนั้น มีใครขับขี่รถจักรยานยนต์ตามไปหรือไม่ ส่วนคำให้การของผู้ต้องหาที่ว่า มากับเพื่อน ก็ต้องตามตัวเพื่อนมาสอบสวน ว่าจริงหรือไม่ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหารายนี้พบว่า เคยถูกจับในคดีพยายามฆ่า เมื่อปี 2555ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น พ้นคุกมาได้ 3 ปี ก็มาก่อเหตุดังกล่าวอีก โดยอ้างว่า เมา ทำไปโดยไม่รู้ตัว
