ขอนแก่น เงินกองทุนวันละบาทนาน 6 เดือนยังเคลียร์ไม่จบ (มีคลิป)   


24 เมษายน 62 12:26:25

ชาวบ้านโวยหลังเดินเรื่องยื่น ผวจ.ให้ช่วยเคลียร์เรื่องเงินกองทุนวันละบาทที่คณะกรรมการบริหารงานกองทุนฯ ไม่โปร่งใส สมาชิกทั้งหมดต้องการลาออกแต่ทางคณะกรรมการกองทุนฯ บอกจะไม่ยอมคืนเงินต้นที่ชาวบ้านฝากไว้เป็นเงินออมให้

     ที่ศาลาอเนกประสงค์องค์การบริหารส่วนตำบลโนนข่า อ.พล จ.ขอนแก่น เช้าวันนี้ มีชาวบ้านจาก 9 หมู่บ้านของตำบลโนนข่า อ.พล จ.ขอนแก่น เดินทางมาร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารเงินกองทุนกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลโนนข่า กับสมาชิก โดยที่มาของเงินกองทุนสวัสดิการชุมชนตำบลโนนข่านี้ ชาวบ้านมักจะนิยมเรียกว่าเงินกองทุนวันละบาท เพราะสมาชิกที่เป็นชาวบ้านจะฝากเงินออมดังกล่าวเข้าบัญชีของกองทุนวันละ 1 บาท โดยชาวบ้านได้ดำเนินการตามโครงการดังกล่าวมานานกว่า 10 ปี แล้ว จนขณะนี้มีเงินสะสมของกองทุนดังกล่าวมากกว่า 14 ล้านบาท
 
    ต่อมาชาวบ้านสืบทราบว่ามีการบริหารงานไม่โปร่งใสของคณะกรรมการบริหารงานกองทุนฯ บางคน จนเงินในกองทุนฯหายไปจากบัญชีของธนาคารที่ฝากไว้จำนวนหลายแสนบาท ชาวบ้านเกรงว่าเงินจะหมดบัญชีและตนเองจะไม่ได้รับเงิน จึงพากันรีบลาออกจากการเป็นสมาชิก แต่ทางคณะกรรมการฯ กลับบอกว่าถ้าใครลาออกก็ได้ แต่จะไม่ได้รับเงินออมที่ฝากไว้คืน จึงสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก

นายจันทา ราศรี อายุ73 ปี ตัวแทนชาวบ้าน นายจันทา ราศรี อายุ73 ปี ตัวแทนชาวบ้าน 
 
     นายจันทา ราศรี อายุ73 ปี ตัวแทนชาวบ้าน ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าการที่ชาวบ้านซึ่งเป็นสมาชิกของโครงการกองทุนวันละบาทได้มาร่วมประชุมในวันนี้ เพราะได้รับแจ้งจากทางคณะกรรมการบริหารเงินกองทุนฯ ว่าจะมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)จังหวัดขอนแก่น มาเป็นคนกลางเพื่อหาทางออกร่วมกันระหว่างคณะกรรมการฯกับ สมาชิกที่ต้องการลาออกและต้องการขอเงินทุนที่ฝากออมไว้คืน แต่เมื่อถึงเวลานัดหมายปรากฏว่า ไม่มีตัวแทนที่เป็น เจ้าหน้าที่ของทางราชการมาร่วมประชุมเลย ส่วนคณะกรรมการบริหารงานกองทุนก็มาไม่ครบทุกคน โดยเรื่องดังกล่าวนี้ยืดเยื้อมานานหลายเดือนแล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ซึ่งตนมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร เพราะในเมื่อสมาชิกต้องการลาออกและขอเงินออมที่ฝากไว้คืน ก็ควรจะให้เงินเขาคืนไป เพราะเป็นเงินของสมาชิกเอง ไม่ใช่เงินของทางราชการแม้แต่บาทเดียว ทั้งๆ ที่ตนและชาวบ้านได้พากันทำหนังสือยื่นต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอพลแล้วถึง 2 ครั้ง และกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมาพวกตนก็ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น โดยมีนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น มารับหนังสือร้องจากทางกลุ่มชาวบ้านเอง แต่เรื่องก็เงียบหายเหมือนเดิม ต่อไปพวกตนคงไม่หวังพึ่ง ผวจ.ให้ความช่วยเหลืออีกแล้ว เพราะท่านไม่เคยสนใจความเดือดร้อนของชาวบ้านที่มาร้องขอให้ช่วยเหลือเลย แต่จะเดินหน้าแจ้งความเอาผิดกับคณะกรรมการบริหารเงินกองทุนฯ แทน ( มีเสียงสัมภาษณ์........)

     ทางด้าน นางอารีรัตน์ พิทักษ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 7 ต.โนนข่า ซึ่งเป็นสมาชิกเงินกองทุนฯ ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวว่าความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่สมควรยืดเยื้อถ้าทางเจ้าหน้าที่จากอำเภอ จากทางจังหวัดให้ความสนใจมาตัดสินให้ เพราะเงินก็เป็นเงินของชาวบ้านเองเมื่อเขาต้องการลาออกก็สมควรคืนเงินทุนให้เขาไป ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหาย ที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ เพราะคณะกรรมการกองทุนไม่ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของกองทุนฯ ปี 2549 ซึ่งระเบียบดังกล่าวไม่ได้ระบุไว้เลยว่า เมื่อสมาชิกลาออกจะไม่ได้รับเงินต้นคืน แต่ปรากฏว่ามีกรรมการฯบางคนแอบร่างกฎระเบียบข้อบังคับขึ้นมาเองเมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา โดยไม่ผ่านที่ประชุมใหญ่ และไม่ผ่านความเห็นชอบของสมาชิก หรือแม้แต่กรรมการบริหารฯ บางคนก็ไม่ทราบเรื่องนี้เลย โดยระเบียบข้อบังคับที่แอบร่างขึ้นใหม่นี้จะระบุไว้เลยว่า "ถ้าสมาชิกลาออกจะไม่ได้รับเงินต้นที่ฝากไว้คืน" จึงสร้างปัญหามาตลอดนานกว่า 6 เดือนแล้ว (มีเสียงสัมภาษณ์.......)

นางอารีรัตน์ พิทักษ์ สมาชิกเงินกองทุนฯนางอารีรัตน์ พิทักษ์ สมาชิกเงินกองทุนฯ

     จากนั้นได้มีนายสุจิตร นาตรีชน กำนันตำบลโนนข่า เข้ามาเจรจากับกลุ่มชาวบ้านในห้องประชุมและรับปากว่าจะเป็นคนกลางในการเจรจาเคลียร์ปัญหาดังกล่าวให้กับชาวบ้านจนจบ โดยให้เหตุผลว่า เงินโครงการกองทุนฯดังกล่าวว่านี้ เป็นเงินที่ชาวบ้านรวมกลุ่มและก่อตั้งโครงการเงินกองทุนฯขึ้นมาเอง ดังนั้นก็ไม่ควรที่จะไปให้ เจ้าหน้าที่จากทางราชการมาช่วยเคลียร์และแก้ปัญหาให้แต่อย่างใด ชาวบ้านทั้งหมดต้องช่วยกันแก้ปัญหาเอง โดยตนรับปากว่าจะเดินสายเจรจากับผู้ที่เป็นคณะกรรมการเงินกองทุนแต่ละคนที่อยู่ตามหมู่บ้านต่าง ๆ จนครบทุกหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านที่ต้องการลาออกจากการเป็นสมาชิกให้ลาออกได้ และได้รับเงินออมของตนเองที่ฝากไว้คืนครบทุกบาททุกสตางค์ เพราะเงินก็เป็นเงินของชาวบ้านเมื่อลาออกจากการเป็นสมาชิกแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่ทางคณะกรรมการจะไม่คืนให้กับเจ้าของเงิน โดยตนขอนัดทุกคนทุกฝ่ายคือทั้งสมาชิก และคณะกรรมการเงินกองทุน มาประชุมกันอีกที่สถานที่แห่งเดิมนี้ในวันที่ 29 เมษายน 2562 เวลา 09.00 น. จึงได้สร้างความพอใจให้กับชาวบ้าน และได้แยกย้ายกันกลับบ้าน







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS