ฟังอีกด้าน! นายทุนปฏิเสธไม่ได้บังคับปืนเสาไฟฟ้า (มีคลิป)
นายทุนเงินกู้ออกมาปฏิเสธบอกไม่เคยบังคับให้คนเจ็บมาทำงานปีนเสาไฟฟ้า ทุกคนมาด้วยความสมัครใจเป็นการจ้างวานกันของคนในหมู่บ้าน ส่วนความช่วยเหลือนั้นตนยินดีช่วยเหลือเป็นเงินถึง 20,000 บาท แต่ทางญาติต้องการ 50,000 บาทจึงตกลงกันไม่ได้
ความคืบหน้ากรณี นางถนอม ดวงเข็ม อายุ 59 ปี อาชีพแม่บ้าน อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 11 ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ร้องเรียนกับ ผู้สื่อข่าวว่าหลานชายของตนคือ นายพิชัยยุทธ ลุนสำโรง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 6 ต.สำโรง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู ของ รพ.แห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น มาเป็นเวลากว่า 1 เดือนแล้ว โดยผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ขาและแขนทั้งสองข้างขยับเขยื้อนไม่ได้ หายใจเองก็ไม่ได้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอด และต้องเจาะคอให้อาหารเหลวทางสายยาง ซึ่งขณะนี้แพทย์ที่ทำการรักษาลงความเห็นแล้วว่าผู้ป่วยกลายเป็นอัมพาตแล้ว
ส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุกับ นายพิชัยยุทธซึ่งเป็นหลานชายนั้น นางถนอมบอกว่า นายพิชัยยุทธได้รับการร้องขอจากนายทุนเงินกู้รายหนึ่งที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันว่า ให้ไปต่อปลายเสาไฟฟ้า เพื่อวางสายไฟจากหมู่บ้านเข้าไปที่นาของนายทุน แต่นายพิชัยยุทธได้ปฏิเสธไปเพราะไม่เคยปีนเสา ประกอบกับตนเองเป็นคนตัวใหญ่และไม่มีอุปกรณ์ช่วยในการปีนเสา แต่นายทุนคนดังกล่าวก็ได้ทวงบุญคุณ เนื่องจากนายพิชัยยุทธยังติดค้างหนี้เงินกู้ของนายทุนคนนี้อยู่ จำนวน 4,000 บาท และดอกเบี้ยยังไม่ได้ส่งอีก 400 บาท รวมเป็นเงิน 4,400 บาท โดยนายทุนเงินกู้ได้พูดขอร้องในเชิงขู่บังคับด้วย นายพิชัยยุทธจึงยอมทำงานให้ โดยหลังเกิดเหตุหลานตกเสาไฟจนเป็นอัมพาตแล้ว นายทุนคนนี้ก็ไม่เคยมาเยี่ยมดูอาการป่วยของคนเจ็บเลย ส่วนการช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลนั้น ทางนายทุนบอกว่าจะให้เงินช่วยเหลือจำวน 5,000 บาท แต่ทั้งนี้จะต้องหักเงินที่ผู้ป่วยเป็นหนี้ออกก่อน 4,000 บาท ก็เหลือเงินที่จะให้ไป 1,000 บาท เป็นอันจบสิ้นกัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว ขอนแก่น นายทุนเงินกู้บังคับให้ปีนเสาไฟตกลงมาเป็นอัมพาตไม่รับผิดชอบ (มีคลิป)
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่เพื่อดูที่เกิดเหตุ และพบกับ นายนิคม อานแดง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 250 หมู่ 6 ต.สำโรง ซึ่งเป็นนายทุนเงินกู้ และเป็นผู้ว่าจ้างให้นายพิชัยยุทธ มาทำงานขึ้นเสาไฟฟ้าเพื่อต่อยอดเสาไฟฟ้าให้สูงขึ้นอีก ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า การจ้างนายพิชัยยุทธกับเพื่อนๆ รวม 5 คนมาทำงานให้ในครั้งนี้ ทางตนไม่มีการบังคับใด ๆ ทั้งสิ้น คนเจ็บมาทำให้ด้วยความสมัครใจเอง ส่วนเพื่อน ๆ ที่มาร่วมกันทำทางนายพิชัยยุทธ ก็หามาเองทั้งหมด สาเหตุที่ตนเองต้องไปว่าจ้างนายพิชัยยุทธมาทำงานให้นั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายพิชัยยุทธ เคยไปรับจ้างทำงานเดินสายไฟฟ้าอยู่ที่กรุงเทพฯ เพิ่งกลับมาอยู่บ้านได้ประมาณ 2 ปีเท่านั้น ตนจึงคิดว่านายพิชัยยุทธมีความชำนาญในงานประเภทนี้ จึงไปทำการว่าจ้างมา และคนเจ็บก็มาด้วยความสมัครใจ
และหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น จนถึงขั้นทำให้นายพิชัยยุทธเป็นอัมพาต เป็นผู้ป่วยติดเตียงไปแล้วนั้น ตนพร้อมภรรยา และทางญาติ ๆ ของนายพิชัยยุทธ ก็ได้มีการเจรจากันเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและค่าทำขวัญกัน ซึ่งทางญาติๆ ของนายพิชัยยุทธได้เรียกร้องมาเป็นเงินถึง 50,000 บาท แต่ตนสามารถช่วยเหลือได้เป็นเงินจำนวน 20,000 บาท จึงยังไม่สามารถตกลงกันได้ ส่วนที่บอกว่าตนจะหักเงินจำนวน 4,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่นายพิชัยยุทธเป็นหนี้ตนเองออกก่อน จึงจะจ่ายเงินส่วนที่เหลือให้นั้น ตนขอปฏิเสธว่าไม่เคยมีการกล่าวถึงเงินจำนวนนั้นแต่อย่างใด
นายนิคม อานแดง
นายทุนเงินกู้และเป็นผู้ว่าจ้างทำงานขึ้นเสาไฟฟ้าเพื่อต่อยอดเสาไฟฟ้าให้สูงขึ้น
ด้านนายสงกา พลภูเขียว อายุ 42 ชาวบ้านที่เป็นทีมช่าง 1 ในจำนวน 5 คนที่มาช่วยกันต่อยอดเสาไฟฟ้า และวางสายไฟฟ้านั้น ก็ให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวว่า พวกตนมาทำงานด้วยความสมัครใจ โดยได้ค่าจ้างคนละ 200 บาท รวม 5 คน ก็เป็นเงิน 1,000 บาท ส่วนเรื่องการปีนเสาไฟฟ้านั้น ตอนแรกตนว่าจะเป็นคนอาสาปีนขึ้นไป แต่นายพิชัยยุทธ คนเจ็บบอกตนว่าเขาขอปีนขึ้นเอง ตนก็ยอม ส่วนสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุนั้นเกิดจากความผิดพลาดเพียงนิดเดียว คือการขันน็อตยึดระหว่างปลายเสากับตัวต่อที่เป็นเหล็กไม่แน่นพอ ประกอบกับสายไฟฟ้ามีความยาวจึงมีน้ำหนักมาก เมื่อนายพิชัยยุทธอยู่บนที่สูงใช้มือข้างหนึ่งกอดเสาไฟฟ้าซึ่งเป็นส่วนที่ต่อเติมขึ้นมาใหม่ แล้วใช้มืออีกข้างดึงสายไฟฟ้าเข้ามา เนื่องจากสายไฟฟ้ามีน้ำหนักมาก จึงเป็นเหตุยอดเสาที่เป็นส่วนต่อขึ้นมาใหม่หลุดออกจากต้นเสาเดิมร่วงลงมากองกับพื้นบนความสูงประมาณ 4- 5 เมตรทันที
นายสงกา พลภูเขียว
1 ใน 5 ทีมช่างที่มาช่วยกันต่อยอดเสาไฟฟ้า