ขอนแก่น 9 ขวบเสพยาแล้ว ย้ำทุกฝ่ายสร้างภูมิคุ้มกัน (มีคลิป)
ผู้ว่าฯขอนแก่น เผยยอดการตรวจค้น-จับกุม คดียาเสพติดและอาชญากรรม สูงที่สุดใน บช.ภ.4 เผยผู้เสพเริ่มอายุลดลง ล่าสุดพบที่ 10 ขวบ เร่งติวเข้มสถานศึกษาร่วมเฝ้าระวังป้องกันเต็มที่
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 16 ก.พ. 2562 นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ,ทหาร,ฝ่ายปกครอง และ ปปส. สนธิกำลังร่วมเจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรมเข้าทำการจู่โจมตรวจค้นศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนเขต 4 ขอนแก่นและที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนขอนแก่น โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้แบ่งชุดจู่โจมตรวจค้นรวมทั้งหมด 3 ชุดกระจายกำลังกันตรวจค้นพร้อมกันทั้ง 2 จุด โดยทันทีที่กำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการจู่โจมตรวจค้นนั้นได้มีการส่งสัญญาณให้เด็กและเยาชนที่ถูกควบคุมตัวอยู่ภายในศูนย์ฝึกอบรมฯและสถานพินิจฯ นั้นมารวมตัวกันบริเวณลานกีฬา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจค้นอาคารเรือนนอน โรงครัว,ลานกีฬา,ห้องฝึกอาชีพและห้องบำบัดฟื้นฟู รวมไปถึงการตรวจร่างกายของผู้ที่ถูกควบคุมทั้งชายและหญิง ซึ่งผลการตรวจค้นนั้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายและสิ่งผิดปกติใดๆ
นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การเปิดปฎิบัติการตรวจจู่โจมตรวจค้นแบบไม่ทันตั้งตัวนั้นได้กำหนดแผนปฎิบัติการร่วมกันกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1 ครั้ง ด้วยการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำกลาง,ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ,ศูนย์ฝึกอบรมฯ,สถานพินิจ,พื้นที่เป้าหมายรวมทั้งการตรวจหาสารเสพติดของข้าราชการทุกหน่วยงาน ทั้งนี้จากการดำเนินงานดังกล่าวพบว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2562 นั้นผลการดำเนินการตรวจค้นร่วมทุกฝ่ายเพื่อป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมและยาเสพติดนั้นขอนแก่นมีผลการดำเนินงานและสถิติการตรวจค้นจู่โจมมากที่สุดในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน
“ทุกหน่วยงานของจังหวัดนั้นสนองนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างเต็มที่ ทุกพื้นที่ต้องเป็นสีขาว ซึ่งจังหวัดจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ขอนแก่นนั้นกล้าที่จะประกาศให้เป็นพื้นที่จังหวัดสีขาวอย่างยั่งยืน ดังนั้นแม้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่รับผิดชอบการดำเนินงานด้านปราบปรามยาเสพติดและงานด้านป้องกันและปราบปรามปัญหาอาชญากรรมจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่ทุกคนนั้นมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำให้ขอนแก่นนั้นเป็นจังหวัดที่น่าอยู่และเป็นจังหัดที่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขณะที่จากการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่องนั้นพบว่ากลุ่มผู้เสพที่ถูกส่งตัวมาควบคุมที่สถานพินิจฯนั้นมีเกณฑ์อายุที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก”
ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่าเด็กและเยาวชนที่ถูกส่งตัวมาทำการบำบัดรักษาด้วยคดียาเสพติดนั้นมีกลุ่มอายุที่ลดลง ล่าสุดพบว่าอยู่ที่อายุระหว่าง 9-11 ปี ซึ่งจัดอยู่ในช่วงของการศึกษาระดับประถมศึกษาตอนปลายที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ดังนั้นจังหวัดจะต้องทำงานกันอย่างหนักมากขึ้นและพุ่งตรงไปในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว โดยจะมีการประสานการทำงานร่วมกันกับสถานศึกษาทุกแห่งในจังหวัดทั้งของรัฐและเอกชนในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับกลุ่มเด็กเหล่านี้รวมทั้งการประสานการทำงานร่วมกันกับผู้ปกครองเพื่อป้องกันไม่ให้บุตรหลานนั้นเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆโดยที่มีผู้ใหญ่การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด
