ขอนแก่น ญาติ "เอสลูกทรพีฆ่าพ่อ" ยืนยันในคลิปทำร้ายคนในห้องขังคือเอสขออย่าปล่อยออกมา (มีคลิป)
ความคืบหน้ากรณีลูกทรพีใช้อาวุธมีดอีโต้กระหน่ำฟันพ่อ แม่ และ พี่ชาย จนพ่อเสียชีวิต ส่วนแม่และพี่ชายบาดเจ็บสาหัส เพราะจิตหลอนว่ามีคนมากระซิบหากฆ่าพ่อแม่แล้วจะรวย ล่าสุดไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาในห้องควบคุมที่นำมาขังด้วยกันจนหมดสติสาหัสส่งโรงพยาบาล พี่สาวเอส ยืนยันคนในคลิปคือเอสแน่นอน และรับไม่ได้รับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หากเป็นไปได้ไม่อยากให้ปล่อยตัวออกมาอีก
ความคืบหน้ากรณีนายยุทธนา ภักดีแสน อายุ 37 ปี หรือนายเอส ก่อเหตุใช้มีดอีโต้ยาว 2 ฟุตฟันพ่อแท้ๆขณะนอนหลับ แม่และพี่ชายเข้ามาห้ามแย่งมีดถูกฟันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และพ่อเสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล เพราะจิตหลอนว่ามีคนมากระซิบบอกหากฆ่าพ่อฆ่าแม่แล้วจะมีฐานะร่ำรวย กระทั่งตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ได้ภายในบ้านพัก เมื่อวันที่ 4 ม.ค. และยังไม่วายก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองเรือจับมาและนำมาขังรวมกันกับนายเอส เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ขณะผู้ต้องหารายดังกล่าวกำลังนอนอยู่ โดยเข้าไปกระหน่ำใช้เท้ากระทืบจนแน่นิ่งหมดสติ หามส่งโรงพยาบาล ซึ่งอาการสาหัสต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นางเยาวณีย์ ภักดีแสน อายุ 41 ปี บุตรสาวคนโตของ นายสมยศ ภักดีแสน อายุ 63 ปี ผู้เสียชีวิตที่ถูก นายยุทธนา ภักดีแสน อายุ 37 ปี หรือนายเอส ลูกชายคนสุดท้อง ใช้อาวุธมีดทำร้ายและเสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้ได้ดูคลิปดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าคนที่ลงมือทำร้ายร่างกายผู้ต้องหาในห้องขังของโรงพักนั้นคือนายเอส เพราะจำลักษณะ ท่าทางของน้องตัวเองได้ ซึ่งเป็นภาพที่รับไม่ได้และไม่อยากจะเห็นอีก และเหตุการณ์นี้แม่ก็ยังไม่ทราบเรื่อง ซึ่งก็ไม่อยากจะให้แม่มารับรู้อีก เพราะยิ่งจะทำให้จิตใจของแม่ต้องสะเทือนขวัญ โดยอาการของแม่ขณะนี้แม่ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว และได้ย้ายไปพักผ่อนที่ห้องพักฟื้นของโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย ส่วนอาการของนายเดชา น้องชายคนกลางที่ถูกนายเอสทำร้ายนั้น ก็อาการดีขึ้นตามลำดับ ได้สติพูดคุยได้บ้าง เตรียมย้ายไปห้องพักฟื้นเช่นกัน ซึ่งตอนนี้ตนต้องวิ่งหน้าวิ่งหลังทั้งจัดงานศพให้พ่อทั้งต้องเดินทางเข้าเมืองไปดูแลแม่และน้องชายที่บาดเจ็บ และในส่วนของนายเอส น้องชายที่ก่อเหตุทั้งหมดนี้ หากเป็นไปได้ไม่อยากให้ปล่อยตัวออกมาสู่สังคมอีก เพราะจะเป็นอันตรายต่อสังคมไม่ใช่เฉพาะคนในครอบครัว แต่อาจเป็นอันตรายต่อทุกคนที่อยู่
ด้าน พ.ต.อ.วิโรจน์รัตน์ จั่นประดับ ผู้กำกับการ สภ.หนองเรือกล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่นายเอสไปทำร้ายร่างกายผู้ต้องขังที่ตำรวจนำมาขังรวมกันแล้ว ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกๆฝ่าย โดยในขณะนั้นสิบเวรที่อยู่หน้าห้องควบคุมของโรงพัก เกิดปวดท้องเข้าห้องน้ำ นายเอสจึงลงมือทำร้ายผู้ต้องหาอีกคนที่กำลังนอนหลับอยู่จนแน่นิ่งไป ซึ่งมีตำรวจเห็นเหตุการณ์ในกล้องวงจรปิดจึงได้รีบแจ้งสิบเวรให้ลงไปดูก็พบว่าหมดสติไปแล้ว และได้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที ซึ่งยอมรับว่าเป็นความบกพร่องของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยส่วนหนึ่ง และหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นก็ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนเข้มงวดขึ้นในเรื่องดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก และประเมินสถานการณ์ให้ดีว่า ผู้ต้องหาที่มีลักษณะแบบนี้ควรแยกออกจากผู้ต้องหารายอื่น โดยจะมีข้อสรุปภายใน 15 วัน หลังจากตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ
