ชาวไร่อ้อยขอนแก่นอ้อน "อุตตม" ขอขึ้นราคาอีกตันละ 100 บาทในฤดูเปิดหีบอ้อยปีนี้   


12 ธันวาคม 61 21:54:27

ชาวไร่อ้อยขอนแก่นอ้อน "อุตตม" ขอขึ้นราคาอีกตันละ 100 บาทในฤดูเปิดหีบอ้อยปีนี้ หลังราคาตกต่ำต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าตัวเผยมาทำหน้าที่ รมต.ฯ ไม่ได้มาหาเสียงแม้จะปลดล็อคทางการเมืองแล้วก็ตาม                

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 ธ.ค.2561 ที่ห้องประชุมสมาคมชาวไร่อ้อยขอนแก่น ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น นายอุตตม  สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่พบปะกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อรับฟังปัญหาและตรวจเยี่ยมการดำเนินงานในช่วงช่วงฤดูเปิดหีบอ้อยประจำฤดูกาลผลิต 2561/2562 โดยมีนายเอกราช  ช่างเหลา แกนนำกลุ่ม “เพื่อเอกราช”, นายศุภชัย  ลีเขาสูง นายอำเภอน้ำพอง และ พ.ต.อ.สุวัฒน์  สมจิตร ผกก.สภ.น้ำพอง นำกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกอ้อยในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมพบปะพูดคุยรวมกว่า 1,000 คน


                
นายชัยวัฒน์  คำแก่นคูณ นายกสมาคมชาวไร่อ้อย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ราคาอ้อยในปีนี้นั้นตกต่ำอย่างมากและเป็นราคาที่ตกต่ำต่อเนื่องมาหลายปีเมื่อย้อนกลับไปในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมาราคาอ้อยน้ำอยู่ที่ตันละ 1,100 -1,200 บาท แต่ด้วยภาวะราคาน้ำตาลโลกและปัจจัยต่างที่เกิดขึ้นทำให้ปีนี้ราคารับซื้ออ้อยในฤดูกาลผลิต 2561/2562 นั้นอยู่ที่ตันละ 700 บาท ดังนั้นข้อเรียกร้องที่เกษตรกรชาวไร่อ้อยอยากได้ยินเป็นข่าวดีรับวันปีใหม่คือการที่ต้องการให้รัฐบาลนั้นปรับขึ้นราคารับซื้ออ้อยในฤดูกาลผลิตปีนี้เพิ่มขึ้นอีกตันละ 100 บาท รวมทั้งการประกันราคาการรับซื้ออ้อยในฤดูกาลผลิต 2562/2563 ที่ตันละ ไม่น้อยกว่า 1,200 บาท ควบคู่ไปกับการแปรสภาพอ้อยให้เป็นสินค้าต่างๆตามความต้องการของตลาดโดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มมูลค่าสินค้านั้นเกษตรกรจะต้องได้รับรายได้ในส่วนนี้ที่เพิ่มขึ้นด้วย


                
ขณะที่นายอุตตม  สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า  ขณะนี้ราคาอ้อยนั้นได้มีการปรับขึ้นราคาอีกตันละ 50 บาท ตามที่เลขาธิการอ้อยและน้ำตาล นั้นได้นำเสนอขึ้นมา โดยในข้อเรียกร้องต่างๆที่กลุ่มเกษตรกรนั้นมีการนำเสนอขึ้นมานั้น จะมีการนำกลับไปทบทวนและพิจารณาถึงความเป็นไปได้เพราะรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรมนั้นดูแลในเรื่องของภาคอุตสาหกรรมการเกษตรในด้านต่างๆในภาพรวม ดังนั้นวันนี้การมาลงพื้นทีเพื่อพบปะกับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งเป็นหนึ่งในการลงพื้นที่ของการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ทุกข้อเสนอคณะทำงานจะรับฟังและไปนำเสนอให้กับแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบนั้นได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ เพราะรัฐบาลนั้นเน้นหนักในเรื่องของการสร้างความมั่นคงให้กับภาคการเกษตร ควบคู่กับการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
                
“เราต้องพูดถึงเรื่องการทำการเกษตรชีวภาพ ที่ถือเป็นภาคการเกษตรที่กระทรวงอุตสาหกรรมนั้นจะต้องเข้าไปทำงานร่วมกันกับทุกกระทรวงเพื่อที่จะดูแลเรื่องการเกษตรตั้งแต่ต้นทาง ทั้งในเรื่องของอ้อย,ข้าว,ปาล์ม,น้ำมัน,มันสำปะหลัง และภาคการเกษตรกรต่างๆ ดังนั้นการนำหลักวิชาการและเทคโนโลยีมาใช้กับภาคการเกษตรตั้งแต่ต้นทางจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรของไทยนั้นมีศักยภาพที่จะแข่งขันกันภาคการเกษตรทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ ดังนั้นขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้มีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์วิจัยเกษตรชีวภาพ ครอบคลุมพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ เพื่อที่จะร่วมกันพัฒนาผลผลิตทางการเกษตรของไทยในภาพรวมเข้าสู่ภาคการเกษตรอุตสาหกรรมชีวภาพ ที่จะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นและเป็นที่ต้องการของตลาดโลกต่อไปในอนาคต”
                  
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าขณะนี้ปลดล็อคทางการเมืองแล้ว จะต้องทำงานหนักขึ้นหรือไม่ นายอุตตม  สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวสั้นๆว่าวันนี้มาทำหน้าที่รัฐมนตรีอุตสาหกรรม มาในเรื่องกระทรวงอุตสาหกรรม ก็เป็นเรื่องกระทรวงอุตสาหกรรมเท่านั้น โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใด







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS