ตำรวจ-ผอ.รพ.-ญาติผู้ตาย ร่วมเปิดคลิปพิสูจน์ "บุรุษพยาบาลชกผู้ป่วยจริงหรือไม่" (มีคลิป)   


7 ธันวาคม 61 21:11:53

ความคืบหน้ากรณีญาติผู้ป่วยแจ้งความบุรุษพยาบาลทำร้ายร่างกายผู้ป่วย ล่าสุดทุกฝ่ายได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ เบื้องต้นยังไม่สามารถตกลงกันได้ ญาติยืนยันต้องการให้ลงโทษบุรุษพยาบาลที่ทำร้ายผู้ป่วย ส่วนโรงพยาบาลปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นการทำร้าย

จากกรณีนางสาว ศรินทิพย์ อิ่มใจ อายุ 45 ปี ลูกบุญธรรมของนายพินันท์ ประเคนทอง อายุ 65 ปี ชาวอ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ปัจจุบันเสียชีวิตแล้วด้วยอาการของโรคเนื้องอกในสมองเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2561 เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการสืบสวนสอบสวนเอาผิดตามกฎหมาย กับบุคคลที่เป็นชายคาดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลรัฐชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้ชกใบหน้านายพินันท์ ขณะเข้ารับการรักษาภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลดังกล่าวเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 28 พ.ย.2561 ต่อเนื่องวันที่ 29 พ.ย.2561 ที่ผ่านมา หลังพบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลภายในห้องฉุกเฉิน เป็นภาพที่มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นบุรุษพยาบาล เข็นรถเข็นกลับเข้ามาในห้องฉุกเฉินหลังจากพ่อตัวเองพลัดตกเตียงไปแล้ว กลับพาเข้ามาอีกรอบหลังจากนำตัวผู้ป่วยไปเอ็กซเรย์สมอง โดยได้มัดแขนของพ่อตัวเองไว้กับราวเหล็กข้างเตียงด้วย 
 
ก่อนที่บุรุษพยาบาลคนหนึ่ง เดินมาหาผู้ป่วยที่เตียง และลงทำบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งลักษณะเหมือนกับการชกเข้าที่ใบหน้าของผู้ป่วย ก่อนจะบังคับให้ผู้ป่วยนอนลง พร้อมกับชี้นิ้วไปที่หน้าผู้ป่วยและพูดบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งตนคาดว่าจะเป็นการด่าทอผู้ป่วย จึงได้พูดคุยกับทางโรงพยาบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มาร่วมพูดคุยได้เจรจาขอร้องกับทางญาติว่า อย่าเอาเรื่อง อย่าแจ้งความเด็ดขาด และห้ามบันทึกภาพในคลิปด้วย เพราะทางโรงพยาบาลจะจัดการกับคนก่อเหตุเอง และยังบอกอีกว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยอมรับผิดและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำลงไปด้วยอารมณ์ ก่อนที่เรื่องราวจะกลายเป็นหนังคนละม้วน เมื่อทางโรงพยาบาลขอนแก่น ออกมาชี้แจงและยืนยันเรื่องดังกล่าวเป็นการเข้าใจผิด ตัวบุรุษพยาบาลในคลิปได้เอื้อมมือไปปัดมือของผู้ป่วยที่กำลังแกะผ้าพันแผลออก แต่ขัดกับทางญาติที่ระบุว่าหลังจากดูกล้อวงจรปิดตัวผู้ป่วยถูกมัดมือไว้ข้างเตียง

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. 61 ที่โรงพยาบาลขอนแก่น น.ส.ศรินทิพย์ ลูกบุญธรรมของผู้ป่วย พร้อมญาติที่เดินทางมาจากจ.ระยอง พร้อมด้วย นายแพทย์ ชาญชัย จัทร์วรชัยกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น พร้อมคณะผู้บริหารของโรงพยาบาล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่นร่วมกันตรวจสอบภาพจากกล้อวงจรปิดภายในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในขณะเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 00.15 น. วันที่ 28 พ.ย.2561 ต่อเนื่องวันที่ 29 พ.ย.2561 โดยเป็นภาพขณะที่ผู้ป่วยซึ่งเข้ารับการรักษาในขณะนั้นพลัดตกเตียง และภาพขณะที่ญาติผู้ป่วยแจ้งความว่ามีบุรุษพยาบาลเข้าไปทำร้ายตัวผู้ป่วยก่อนจะผลักอกให้นอนลงและชี้หน้าด่าทอ ซึ่งหลังจากที่ทุกคนได้ทำการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดร่วมกันยังไม่สามารถตกลงกันได้ ต่างฝ่ายยังคงยืนยันเช่นเดิม โดยทางโรงพยาบาลขอนแก่นยังคงยืนยันว่าไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกายแต่เป็นการเข้าไปจับเอามือของผู้ป่วยที่กำลังจับศีรษะออก และให้นอนลง ก่อนจะทำการมัดมือผู้ป่วยไว้กับเตียงให้แน่นขึ้น ขณะที่ทางด้านญาติผู้ป่วยยังยืนยันว่าในภาพเป็นการเหวี่ยงมือเข้าไปที่ใบหน้าของผู้ป่วยและเป็นการทำร้ายร่างกายก่อนจะผลักอกผู้ป่วยลงและชี้หน้าด่าทอ

น.ส.ศรินทิพย์ ลูกบุญธรรมของผู้ป่วย กล่าวว่า ตนเองยังยืนยันคำเดิมว่าต้องการให้ทางโรงพยาบาลขอนแก่น ดำเนินการลงโทษบุรุษพยาบาลในคลิปที่ทำร้ายร่ายกายพ่อของตนเอง ซึ่งถ้าหากตัวบุรุษพยาบาลคนดังกล่าวออกมายอมรับผิดและขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป ทางญาติๆก็พร้อมที่จะเจรจายอมความ แต่หากยังยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายและไม่มีการลงโทษ ทางญาติก็จะดำเนินการตามกฎหมายจนถึงที่สุด

ด้าน นายแพทย์ ชาญชัย จันทร์วรชัยกุล ผอ.รพ.ขอนแก่น กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางโรงพยาบาลยืนยันว่าไม่ได้เป็นการทำร้ายร่างกายผู้ป่วย โดยมุมกล้องที่จับภาพเอาไว้อาจจะทำให้ทางญาติๆเข้าใจผิด คิดว่าเป็นการทำรายร่างกาย แต่ขอยอมรับในเรื่องที่ผู้ป่วยตกเตียงว่าเป็นความผิดพลาดของทางโรงพยาบาล และการชี้หน้าผู้ป่วยก็ถือว่าไม่เหมาะสม แต่ก็คงไม่ถึงขั้นร้ายแรงจนผิดวินัยทางราชการ และคำพูดที่พูดกับคนไข้อาจจะพูดเป็นภาษาอีสานทำให้สำเนียงฮ้วนๆ ทำให้คนไข้เข้าใจผิดได้ ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเข้มงวดในเรื่องของการบริการ และความปลอดภัยของผู้ป่วยในขณะที่เข้ารับการรักษามากขึ้น และในเรื่องดังกล่าวนี้หากทางญาติยังยืนยันที่จะเอาผิดก็คงต้องให้กฎหมายเป็นตัวตัดสินด้วยพยานและหลักฐาน

ขณะที่ ร.ต.อ.ชัยยุทธ จันทร์แปลง สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ที่กล่าวว่า  เบื้องต้นได้ทำการเก็บภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน โดยคดีความดังกล่าวนี้เป็นคดีที่สามารถยอมความกันได้ แต่หากทั้งสองฝ่ายยังยืนยันที่จะเอาเรื่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทำการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปสู่กระบวนการตามกฎหมายในชั้นศาลต่อไป ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิดอาจเป็นมุมกล้องที่ยังไม่ชัดเจนจึงทำให้ในวันนี้ทั้งสองฝ่ายจึงยังไม่สามารถตกลงกันได้







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS