ขอนแก่น เตรียมออกหมายจับแก๊งค์ตบทรัพย์ขณะที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพิ่ม (มีคลิป)
ตำรวจเตรียมรวบรวมหลักฐานออกหมายจับแก๊งค์ตบทรัพย์ที่กำลังออกอาระวาดอย่างหนักในพื้นที่ อ.บ้านไผ่ และโดยรอบ ขณะที่ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจอีกราย พร้อมรูปภาพคนร้ายยืนยันตัวตน หลังถูกตบทรัพย์สูญเงินไป 2,000 บาท พร้อมข่มขู่อ้างเป็นตำรวจ
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 3 พฤศจิกายน 2561 ที่สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นางวรรณี ประเสริฐยิ่ง อายุ 53 ปี พร้อมด้วย นายธนายง ประเสริฐยิ่ง อายุ 58 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 52 ม.5 บ้านหนองหวาย ต.หนองไผ่ล้อม อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นำรูปหน้าของผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้าย เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.อำนาจ เชาเทอรี่ สว.สอบสวนสภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ว่า ถูกคนร้าย เป็นแก๊งค์ตบทรัพย์ขับรถชนและเรียกเอาเงิน จนต้องจ่ายเงินจำนวน 2,000 บาท เหตุการณ์ครั้งนี้ จำทะเบียนรถยนต์ และหน้าคนร้ายได้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนเอาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเชื่อว่าน่าจะไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆอีก
หลังแจ้งความลงบันทึกประจำวันเป็นที่เรียบร้อย สองสามีภรรยาได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่บนถนนสาย อ.บ้านไผ่ ไปอำเภอหนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ช่วงพื้นที่บ้านดอนดู่ดอนเปือย ต.ป่าปอ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ในขณะเดียวกัน นายธนายง ประเสริฐยิ่ง ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงวินาที ที่ถูกคนร้ายแก๊งค์ตบทรัพย์ ขับรถเบียด จนต้องจ่ายเงินไป 2,000 บาท ว่า เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ภรรยาได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเขียว ทะเบียน บม- 4720 ขอนแก่น มารับตัวเองที่เข้ารับการผ่าตัดนิ่ว โรงพยาบาลสิรินธร อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น เพื่อเดินทางกลับบ้าน ขากลับตนเองเป็นคนขับรถ มุ่งหน้ากลับบ้านตามถนนสาย หินตั้ง อ.บ้านไผ่ - อ.เปือยน้อย - อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น ในช่วงเวลาบ่ายโมงเศษๆ ก็มาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนสี่เลน พบรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียนจำได้เพียงตัวเลข คือ 9115 กรุงเทพมหานคร ขับอยู่ช่องซ้ายสุดแบบช้าๆ ตนจึงตัดสินใจแซง พอแซงได้ไม่นาน รถวีโก้ก็เร่งเครื่องเบียดเขาข้างซ้าย จังหวะนั้นก็มีรถกระบะยี่ห้อนิสสันนาวาร่า สีเทา ไม่ทราบทะเบียน ขับไล่หลังบีบแตร แซงขวา เปิดไฟสูงใส่ แล้วรถวีโก้ที่อยู่ด้ายซ้ายที่เร่งเครื่องขับประกบคู่มาก็เบียดและชนกระแทกทางด้านซายอย่างแรง จากนั้นรถสีเทาที่ขับแซงขวาก็ขับออกจากจุดที่เกิดเหตุทันที ส่วนรถวีโก้ก็ขับปาดหน้าและจอดรถ คนขับรถเป็นชายอายุประมาณ 40 ปี รูปร่างสันทัด ผิวดำแดง ลงจากรถและเดินตรงมาที่รถ พร้อมตะคอกให้สามีลงจากรถ ระบุว่าตนเองขับรถไปชน
ซึ่งตนเองและภรรยาจำหน้าคนร้าย เสื้อผ้าที่สวมใส่ได้แม่นยำ เพราะมีการลงจากรถไปคุยกับคนร้ายอยู่ข้างทาง คนร้ายบอกว่า เป็นตำรวจยศ.ร.ต.อ.ชื่อผู้กองณัฐนนท์ แต่ไม่บอกนามสกุล รีบไปเซ็นเอกสารที่โรงพักหนองสองห้อง และจะรีบไปส่งภรรยาทำงานที่ จ.ชัยภูมิ ได้เรียกร้องค่าเสียหาย 6,500 บาท แต่ยายกับสามีไม่มีเงินจ่ายและขอไปเจรจาค่าเสียหายกับตำรวจที่โรงพัก แต่คนร้ายกระชากแขนสามีไว้ พร้อมกับบอกว่า รถไม่มีประกัน พูดมากจะยุ่งยาก ตำรวจช่วยไม่ได้ มีเท่าไหร่ก็จ่ายๆมา ยายจึงจ่ายเงินให้คนร้ายไป 2,000 บาท เมื่อคนร้ายมันได้เงินแล้ว มันรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว ที่ยอมจ่าย เพราะภรรยากลัวสามีที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลถูกทำร้าย
นายธนายง เปิดเผยต่ออีกว่า ช่วงที่กำลังยืนคุยกัน พยายามจดจำทะเบียนรถและลักษณะรถให้ได้มากที่สุดเพราะเพิ่งเห็นข่าวทางสื่อมวลชนว่ามีแก๊งค์ตบทรัพย์อาละวาดในพื้นที่อ.บ้านไผ่ จึงจำเลขทะเบียนไว้ นอกจากนี้ยังเห็นผู้หญิงรูปร่างท้วมนั่งที่เบาะหน้าข้างคนขับด้วย จึงคิดว่าตัวเองกับสามี กำลังตกเป็นเหยื่อแก๊งค์ตบทรัพย์ตามที่เป็นข่าวแน่ๆ แต่ก็พยายามใจเย็น เพราะเพิ่งออกจากโรงพยาบาล กลัวคนร้ายจะลงมือทำร้าย และเมื่อเข้าแจ้งความ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาพผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นคนร้าย พร้อมคลิปรถยนต์กระบะสีขาว ยี่ห้อโตโยต้าให้ดู ยืนยันว่ารูปคนร้ายตรงกันกับรูปที่ตัวเองมีอยู่ ส่วนคลิปรถยนต์ก็ตรงกับรถยนต์ของคนร้าย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมคนร้ายโดยเร็ว เพราะเชื่อว่าน่าจะมีการก่อเหตุมาหลายครั้งแล้ว
พ.ต.อ.จำรัส จันทร์แดง ผกก.สภ.บ้านไผ่
ทางด้าน พ.ต.อ.จำรัส จันทร์แดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ เปิดเผยกับสื่อมวลชนภายหลังทราบรายละเอียดจากผู้เสียหายว่า ก่อนหน้าที่จะเป็นเคสของของผู้เสียหายชาวอ.หนองสองห้องนั้น เคยมีเคสของข้าราชการบำนาญ ซึ่งพฤติกรรมการก่อเหตุตรงกัน คนร้ายแก๊งค์ตบทรัพย์ใช้รถยนต์ 2 คัน มีทั้งรถเก๋งและรถกระบะ ซึ่งผู้เสียหายที่อยู่อ.หนองสองห้องจำหน้าคนร้ายได้ จำรถยนต์ที่คนร้ายใช้เป็นยานพาหนะได้ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนประสานกับตำรวจในพื้นที่อื่นๆที่อาจจะมีกรณีเดียวกัน จนได้เบาะแสของคนร้ายที่เชื่อว่าเป็นแก๊งค์ตบทรัพย์ ซึ่งเคยก่อเหตุมาแล้วและเคยถูกจับแล้ว ออกจากคุกมารวมตัวกันก่อเหตุอีก
กลุ่มคนร้ายที่ต้องสงสัยว่าเป็นแก๊งค์ตบทรัพย์นั้น ตามเบาะแสทางการสืบสวนทราบว่า เป็นสองผัวเมียชาวจังหวัดร้อยเอ็ดชื่อนายตื๊ด อายุ 40 ปี กับนางตุ่น อายุ 50 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนเพื่อยืนยันตัวบุคคล หากทราบชื่อ ที่อยู่จริง และผู้เสียหายชี้ภาพถ่ายยืนยันว่าเป็นคนร้าย จะรวบรวมพยาน หลักฐานขอศาลออกหมายจับทันที ซึ่งคนที่ถูกจับจะต้องถูกดำเนินคดีในข้อหา กรรโชกทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ และฉ้อโกงทรัพย์ นอกจากนั้นก็จะสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่ร่วมแก๊งค์ต่อไปอีก เพราะการก่อเหตุในลักษณะนี้ไม่ได้มีเพียงแค่สองคน น่าจะมีมากกว่า 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งดำเนินการสืบสวน เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้มากที่สุดในเร็วๆนี้
