คืบโกงเงินตำรวจ เรียกสอบอีกกว่า10ราย เตรียมเข้ายึดทรัพย์คนดังอีก3จุด
คืบหน้าผู้การสุทิพย์โกงเงินตำรวจเลย เรียกสอบปากคำเพิ่มอีกกว่า 10 ราย ย้ายตำรวจร่วม20นาย บ่ายนี้บิ๊กโจ๊กนำทัพลงพื้นที่ยึดทรัพย์เพิ่มเติมอีกทั้งในขอนแก่นและต่างจังหวัด
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ตุลาคม 2561 ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พนักงานสอบสวนในคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย ยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการเตรียมความพร้อมเพื่อจะรายงานผลการทำงานในการสอบสวนต่อ พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง (รอง ผบช.สกบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.จว.เลย และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่จะเดินทางมาร่วมประชุมสรุปผลการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น
โดยบรรยากาศทั่วไปภายในศูนย์ดังกล่าว ยังคงมีประชาชนเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลยอย่างไม่ขาดสาย ท่ามกลางความสนใจของสื่อมวลชนทุกแขนงที่ติดตามทำข่าวในคดีนี้เช่นกัน โดยกันเป็นพื้นที่หวงห้ามไม่ให้สื่อมวลชนรวมทั้งผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปสังเกตการณ์โดยเด็ดขาด โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนประจำจุดทางเข้าศูนย์ทุกจุดอย่างเข้มงวด โดยผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าว (พงส.ในคดี ขอสงวนชื่อ นามสกุล) ว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง (รอง ผบช.สกบ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.จว.เลย และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล จะเดินทางมาสรุปผลการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องในคดี เพราะจะมีบุคคลที่มีรายชื่อเกี่ยวพันกับคดีดังกล่าว เดินทางมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มอีกกว่า 10 คน ซึ่งมีทั้งข้าราชการ อดีตข้าราชการ และนักธุรกิจ นอกจากนี้จะมีการยึดทรัพย์อีก 3 จุด เป็นคอนโดมิเนียมชื่อดังตั้งอยู่ใจกลางเมืองขอนแก่น และหมู่บ้านจัดสรรหรูแห่งหนึ่งริมบึงหนองโคตร ส่วนอีกจุดอยู่ในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด
ซึ่งการสอบปากคำในวันนี้ อาจมีมากกว่า 10 คน สืบเนื่องจากที่ผ่านมา มีการสอบสวนขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวแล้ว พบเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับบุคคลต่างๆจำนวนมาก จำเป็นต้องเชิญตัวมาให้ปากคำ ซึ่งการสอบปากคำนั้น หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดก็จะแจ้งข้อกล่าวหา หากไม่ส่วนส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องดูว่าอยู่ในฐานะอะไร อาจเป็นพยาน หรือผู้เสียหาย
พร้อมกันนี้ยังมีกระแสข่าวว่า จะมีการโยกย้ายข้าราชการตำรวจที่เคยร่วมสืบสวนสอบสวนในคดีดังกล่าวอีกประมาณ 20 นายนั้น แหล่งข่าว กล่าวว่า อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะข้าราชการบางคน มีการโยกย้ายไปรับราชการต่างพื้นที่ จึงต้องมีการสับเปลี่ยนตัวบุคคลเข้ามาทำงานแทน ซึ่งข้อเท็จจริงต้องรอให้ พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง (รอง ผบช.สกบ.)สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์รับเรื่องคดีสหกรณ์ออมทรัพย์ ภ.จว.เลย และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล แถลงต่อสื่อมวลชนด้วยตัวเองเท่านั้น
