กรณี เมื่อเช้าวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา นายชำนาญ ทองดี  ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่นได้รับแจ้งเรื่องขอความช่วยเหลือให้ได้รับค่าจ้างตามสัญญา จาก นายนรินทร์ เริงสำราญ อายุ 43 ปี ชาว จ.อุดรธานี พร้อมด้วยตัวแทนคณะหมอลำชื่อดังภาคอีสาน 20 คน จาก 6 คณะใน จ.ขอนแก่น เพราะเป็นผู้รับจ้างตามสัญญาจ้างจัดกิจกรรมหมอลำคาร์นิวัลขอนแก่น 2561 โดยจัดขึ้นในวันที่ 31 มี.ค. - 2 เม.ย. 2561 ที่บริเวณสวนสาธารณะบึงแก่นนคร ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งมีสัญญาจ้างลงวันที่ 16 มี.ค. ที่ผ่านมา มีบริษัท ยูนิตี้ อีเวนท์ เอเจนซี่ จำกัด เป็นผู้ว่าจ้างและลงนามในสัญญาโดย นาย ณฤทธิ์ อินทรสุภะ สัญญาจ้างและนายนรินทร์เป็นผู้รับจ้างตกลง รับจ้างจัดกิจกรรม และผู้ว่าจ้างตกลงจ่ายเงินให้ผู้รับจ้างเป็นเงิน 4 ล้านบาท และผู้ว่าจ้างจะจ่ายเงินค่าจ้างทั้งหมดให้แก่ผู้รับจ้างภายในระยะเวลา 30 วันหลังจากผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานครบถ้วนตามขอบเขตงานจ้างตามสัญญาจ้าง

 

 

ดังนั้นนายนรินทร์ พร้อมคณะทำงานได้ติดต่อว่าจ้างคณะหมอลำ 6 คณะ ซึ่งมี คณะประถมบันเทิงศิลป์ ระเบียบวาทศิลป์ รัตนศิลป์อินตาไทยราษฎร์ หนึ่งรุ่งทิวาอำนวยศิลป์ หนึ่งในสยาม และคณะหนูภารวิเศษศิลป์ มาแสดงในงานดังกล่าวตามที่สัญญาจ้างตลอดระยะเวลา 3 วัน กระทั่งจบสิ้นการแสดงศิลปินและคณะหมดลำที่มาร่วมทำการแสดงในครั้งนี้กลับไม่ได้รับเงินค่าจ้างตามสัญญาที่ตกลงกันไว้ จำนวน 4 ล้านบาท จึงได้มาร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

 

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 15 ส.ค. นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น ให้สัมภาษณ์ในเรื่อง นายนรินทร์ เริงสำราญ ชาว จ.อุดรธานี พร้อมกับคณะหมอลำใน จ.ขอนแก่น มาที่ศูนย์ดำรงธรรมฯ ขอความช่วยเหลือให้ได้รับค่าจ้างตามสัญญาจ้าง จำนวน 4 ล้านบาท ที่มาแสดงในงานหมอลำคาร์นิวัลขอนแก่น 2561 โดยจัดขึ้นในวันที่ 31 มี.ค.- 2 เม.ย. 2561 ในสวนสาธารณะบึงแก่นนคร เทศบาลนครขอนแก่น ว่า เรื่องนี้ได้สอบถามไปที่ สำนักงาน ททท.ขอนแก่น ได้บอกว่าได้ตั้งเบิกจ่ายเงินครบตามจำนวนให้กับผู้รับจ้างตามสัญญาว่าจ้าง แต่ผู้รับจ้างต่อช่วงสัญญาไม่นำหลักฐานมาเบิกจ่าย จึงเกิดปัญหาในเรื่องดังกล่าวขึ้นมา

 

ในส่วนศูนย์ดำรงธรรมฯที่ได้รับแจ้งเรื่องนี้ จะรีบดำเนินการเชิญให้ผู้มารับจ้างช่วงตามสัญญาระบุว่า นาย ณฤทธิ์ อินทร์สุภะ ให้มาเจรจาเพื่อไม่ให้งานที่จังหวัดขอนแก่นสร้างสรรค์ขึ้นมา ให้ศิลปินหมอลำได้มีโอกาสแสดงหมอลำ พร้อมมีรายได้จากการแสดง อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นมา ต้องขอโทษพี่น้องชาวหมอลำที่อาจได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ ต่อไปจังหวัด และ ททท.ขอนแก่น ต้องระมัดระวังในการทำงานไม่ให้เกิดเรื่องเกี่ยวกับการว่าจ้างขึ้นมาอีกในครั้งต่อๆไป

 

"เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้จะต้องดูรายละเอียดของสัญญาการว่าจ้าง ว่าเป็นไปด้วยวาจา หรือรูปแบบตามธรรมเนียมของกฎหมาย ถ้าเป็นตามข้อหลังก็สามารถเอาผิดตามกฎหมายได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องมาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมาในขณะนี้อาจมีการสื่อสารที่ผิดพลาดหรือไม่เข้าใจกัน ดังนั้นต้องเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกันและหาข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเพื่อดำเนินการทุกอย่างให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและเป็นไปตามกฎหมายอีกด้วย" นายสมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าว.