เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 ส.ค. นายศักดิ์ศิริ  อยู่สุข ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 6  กล่าวชี้แจงว่า ตามที่สื่อมวนชนได้นำเสนอข่าวเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา  ได้พบรอยร้าวขนาดใหญ่บนเส้นฝายเก็บน้ำบ้านซับไทรทอง หมู่ 8 ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ นั้น มีความเสี่ยงมากที่จะไม่สามารถรับน้ำฝนได้อีก หากมีฝนตกในพื้นที่ จึงเสี่ยงที่จะฝายแตกได้ นายณรงค์  วุ่นชิ้ว ผวจ.ขัยภูมิ จึงได้ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำรถแบคโฮเร่งขุดลอกเปิดทางน้ำ เพื่อช่วยระบายน้ำออกข้างสันฝายแทน  พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ให้คอยติดตามสถานการณ์แจ้งเตือนจากทางอำเภออย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมอพยพออกจากพื้นที่และขนสิ่งของมีค่าออกไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยไว้ก่อน

ทางสำนักงานชลประทานที่ 6 ขอเรียนชี้แจงว่า ฝายเก็บน้ำบ้านซับไทรทองเป็นโครงการก่อสร้างฝายน้ำล้น คสล.บ้านซับไทรทอง ดำเนินการโดย อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ขนาดกว้าง 6 เมตรยาว 35 เมตร สูงไม่น้อยกว่า 5 เมตร มีความจุประมาณ 100,000 ลูกบาศก์เมตร ประชาชนได้รับผลประโยชน์ประมาณ 100 ครัวเรือน  และมีพื้นที่รับผลประโยชน์ประมาณ 1,000 ไร่ อ.ภักดีชุมพลได้เริ่มการก่อสร้างเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2560 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2561 วงเงินงบประมาณ 1,400,000 บาท 

"ช่วงค่ำของวันที่ 3 ส.ค. ที่ผ่านมา อ.ภักดีชุมพล ได้แจ้งให้ ผวจ.ชัยภูมิ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โครงการชลประทานชัยภูมิ รวมถึงให้ประชาชนในพื้นที่ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากได้ตรวจพบรอยร้าวบริเวณสันฝาย และในเวลา 20.00 น. ของวันเดียวกัน ผวจ.ชัยภูมิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโครงการชลประทานชัยภูมิได้ลงพื้นที่เพื่อขุดคลองชักน้ำ ช่วยระบายน้ำออกข้างสันฝาย จนปริมาณน้ำลดลง 1.50 เมตร ในเวลา 03.00 น. สถานการณ์จึงเข้าสู่สภาวะปกติ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำคงเหลือประมาณ 20,000 ลูกบาศก์เมตร หากเกิดการวิบัติของฝายก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่แต่อย่างใด" นายศักดิ์ศิริ กล่าว

นายศักดิ์ศิริ  กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ โครงการชลประทานชัยภูมิ  สำนักงานชลประธานที่ 6 ได้ลงพื้นที่ร่วมกับคณะ ผวจ.ชัยภูมิ  และได้สนับสนุนรถแบลคโฮเข้าขุดคลองชักน้ำลึกประมาณ 5 เมตร เพี่อระบายน้ำออกด้านขวาของฝาย ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.เวลา 20.00 น. จนสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติในเวลา 03.00 น. ของวันเดียวกัน  อย่างไรก็ตาม สำนักงานชลประทานที่ 6 ไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้เน้นย้ำให้เจ้าที่ร่วมให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน .