เผยอาคารผู้โดยสารสนามบินขอนแก่นสุดล้ำ ด้วยศิลปวัฒนธรรมอีสาน ผ้าไหม-ไดโนเสาร์
นายดรุณ แสงฉาย อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) เปิดเผยความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ ท่าอากาศยานขอนแก่น ซึ่งอยู่ในแผนการพัฒนาท่าอากาศยานปี 61 ของ ทย.ว่า ขณะนี้ได้เอกชนที่มารับงานดังกล่าวแล้ว ได้แก่ บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูล โดยเสนอราคาต่ำสุดที่ วงเงินรวม 2,004 ล้านบาท จากราคากลาง 2,250 ล้านบาท อย่างไรก็ตามจะมีการลงนามสัญญาจ้างในเดือน ส.ค.61 และจะเริ่มก่อสร้างในเดือน ต.ค.นี้ ใช้เวลาการก่อสร้าง 3 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณปลายปี 64 สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 2.8 ล้านคนต่อปี เป็น 5 ล้านคนต่อปี
นายดรุณ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย 1.การก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ พื้นที่ใช้สอยประมาณ 28,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) และปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสารหลังเดิม พื้นที่ใช้สอยประมาณ 16,500 ตร.ม. เมื่อรวมอาคารเป็นหลังเดียวกัน มีพื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 44,500 ตร.ม. และ 2.การก่อสร้างอาคารจอดรถยนต์ใหม่ 7 ชั้น และทางเดินเชื่อมอาคารที่พักผู้โดยสาร พื้นที่ใช้สอยรวมประมาณ 22,800 ตร.ม. สามารถจอดรถได้ 550 คัน นอกจากนี้อาคารจอดรถยังได้ทำทางเชื่อมไว้รอสำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบา (โมโนเรล) ที่จะเชื่อมเข้ามายังสนามบินขอนแก่นด้วย
นายดรุณ กล่าวอีกว่า สำหรับอาคารผู้โดยสารหลังใหม่นี้ มีขนาด 2 ชั้น นอกจากจะเน้นการออกแบบที่มีความทันสมัย โล่ง โปร่งสบาย ไม่แออัดแล้ว ยังเน้นความเป็น จ.ขอนแก่น โดยนำเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม รวมทั้งสถาปัตยกรรมท้องถิ่น และลวดลายผ้าไหมมัดหมี่ เข้ามาตกแต่งแทรกอยู่ภายในตัวอาคาร ส่วนฝ้าเพดานก็ออกแบบโดยเป็นลวดลายกระดูกไดโนเสาร์ ซึ่งไดโนเสาร์ถือเป็นหนึ่งเอกลักษณ์ของ จ.ขอนแก่นที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันดี มั่นใจว่าการออกแบบครั้งนี้จะช่วยสร้างกลิ่นอายความเป็นไทยที่เป็นเอกลักษณ์ของ จ.ขอนแก่น ให้ผู้โดยสารเกิดความประทับใจตั้งแต่ลงเครื่องบิน
นายดรุณ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการศึกษาความเหมาะสมก่อสร้างท่าอากาศยานมุกดาหาร เป็นสนามบินแห่งใหม่ของ ทย.ว่า คาดว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จประมาณเดือน เม.ย.62 จากนั้นจึงจะสามารถบอกได้ว่ารัฐบาลจะลงทุนเอง หรือเปิดให้เอกชนเข้าร่วมทุนในรูปแบบพีพีพี โดยสนามบินมุกดาหารคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 4 พันล้านบาท บนพื้น 2.5 พันไร่ ทั้งนี้หากมีการก่อสร้างสนามบินดังกล่าว จะช่วยส่งเสริมการค้า การท่องเที่ยวบริเวณชายแดนไทย-ลาว รวมทั้งยังสามารถรองรับเขตเศรษฐกิจพิเศษสะหวัน-เซโนของลาวด้วย.
ที่มา เดลินิวส์
