สนามบินขอนแก่น ต้องเป็นมากกว่าสนามบิน - เริ่มสร้าง Terminal 2 วันที่ 1 ส.ค.นี้
สนามบินขอนแก่น ต้องเป็นมากกว่าสนามบิน ทุกอย่างเป็นไปได้ เพราะคนขอนแก่นร่วมมือกัน
เริ่มสร้าง Terminal 2 วันที่ 1 ส.ค.นี้
ผ่านไปแล้วกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ซึ่งถือเป็น 6 เดือนของการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ โดยเฉพาะกับภาพรวมทางเศรษฐกิจของ จ.ขอนแก่น ที่สวนกระแสและมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่องครอบคลุมในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในด้านของการคมนาคมขนส่ง ที่มีการขยายตัวรองรับกับการพัฒนาเมืองได้อย่างลงตัว ซึ่งจากข้อมูลสรุปสถิติครึ่งปีแรกของท่าอากาศยานขอนแก่น ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2561 มีสถิติตที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาในชนิดที่เกินความคาดหมาย ซึ่ง ท่าอากาศยาน จ.ขอนแก่น กรมท่าอากาศยาน ได้สรุปสถิติครึ่งแรก ซึ่งประกอบด้วย จำนวนผู้โดยสารรวม 884,608 คน หรือเฉลี่ยวันละ 4,887 คน โดยวันที่คับคั่งและหนาแน่นที่สุดคือวันที่ 15 เม.ย. คือ 5,955 คน ในส่วนของจำนวนสินค้าหรือการให้บริการรับส่งสินค้านั้นรวม 378,782 กิโลกรัม โดยมีจำนวนเที่ยวบินพาณิชย์แบบไปและกลับ รวม 6,432 เที่ยวบิน หรือ 40-42 เที่ยวบินต่อวัน
นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าขอนแก่น กล่าวว่า ปัจจุบัน เที่ยวบินพาณิชย์ที่ทำการบินรับ-ส่งผู้โดยสาร ที่ท่าอากาศยานขอนแก่น มีทั้งหมด 5 สายการบิน ประกอบด้วย สายการบินไทยแอร์เอเชีย,สายดารบินไทยสมายล์,สายการบินนกแอร์,สายการบินไทยไลออนแอร์ และ สายการบินนิวเจน แอร์เวย์ ทั้งหมดมีสัดส่วนผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวบินมากถึงร้อยละ 90 ในการให้บริการครอบคลุมทุกภูมิภาคของไทย โดยในปีนี้นั้นท่าอากาศยานขอนแก่น ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารตลอดทั้งปีอยู่ที่ 1,800,000 คน
ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความร่วมมือกันของทุกฝ่าย ที่ทุกคนนั้นทำงานร่วมกันเป็นทีม ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ร่วมกันแก้ไขปัญหาและรับฟังข้อเสนอแนะหรือความจริงที่จะเกิดขึ้นทั้งหมด ทุกคนมีหน้าที่ มีภารกิจที่รับผิดชอบ โดยที่แต่ละหน้าที่นั้นจะต้องพูดคุยกันเพื่อหาทางรับมือในสถานการณ์หรือปัญหาต่างๆที่จะตามมา เพราะวันนี้ การพัฒนาเมืองขอนแก่น นั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ดูได้จากการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในพื้นที่ การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนที่ครอบคลุมเพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของความเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางแห่งภูมิภาค,เมืองแห่งศูนย์กลางกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง,เมืองศูนย์กลางแห่งอาเซียน ที่วันนี้ขอนแก่นการทำงานใดๆนั้นจะเดินไปพร้อมกันกับทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสาน ไม่มีการแข่งขัน ไม่มีการแบ่งแยก แต่ทุกอย่างต้องก้าวพร้อมกันไปกับโอกาสและสิ่งที่จะได้รับในด้านต่างๆตามมา
นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้าขอนแก่น
“สนามบินขอนแก่นของเราวันนี้เป็นสนามบินนานาชาติเต็มรูปแบบแล้ว ทุกวันจะมีตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ เจ้าหน้าที่ศุลกากรมาประจำในทุกเที่ยวบิน เพื่อให้บริการแก่ผู้โดยสารที่เดินทางไปหรือกลับจากต่างประเทศ ซึ่งสายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้เปิดให้บริการให้กับผู้โดยสารที่ใช้ขอนแก่น เป็นต้นทางหรือปลายทางในการเดนิทางไปต่างประเทศ ที่ผู้โดยสารไม่ต้องเสียเวลาในการตรวจคนเข้าเมืองหรือตรวจสัมภาระ ที่สนามบินดอนเมือง แต่สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่างๆได้ที่ขอนแก่น อีกทั้งระบบการตรวจสอบหรือระบบการให้บริการของสนามบินนั้นเทียบเท่ากับสนามบินนานาชาติได้ในภาพรวม มีการระบบลำเลียงสัมภาระเฉพาะหากผู้โดยสารเดินทางประจำจะเห็นว่าสายพานลำเลียง 2 นั้นเป็นสายพานของเที่ยวบินต่างประเทศ
และตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอาคาร 2 หรือ Terminal2 เพื่อรองรับเที่ยวบินภายในประเทศที่จะเพิ่มขึ้นในเส้นทางเดิมและเส้นทางใหม่ รวมทั้งการใช้เป็นอาคารผู้โดยสารต่างประเทศแบบเต็มรูปแบบจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว โดยจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 3 ปี ซึ่งเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จขอนแก่น จะมีอาคารผู้โดยสาร 2 อาคารและอาคารจอดรถขนาดใหญ่รองรับการให้บริการแก้ผู้โดยสารที่มีสัดส่วนที่จะเพิ่มขึ้นทุกวันตามการให้บริการขอบสายการบินพาณิชย์ที่ทยอยเปิดขอเส้นทางการบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่มีจุดเริ่มต้นและปลายทางที่ขอนแก่นอย่างต่อเนื่อง”
นายเข็มชาติ กล่าวต่ออีกว่า สนามบินขอนแก่น ในอนาคต ที่วันนี้หลายคนเห็นถึงรูปแบบของตัวอาคารและการให้บริการต่างๆแล้ว แต่ทำอย่างไรคือการทำให้สนามบินขอนแก่น ที่เปรียบเสมือนประตูด่านหน้าอีกแห่งหนึ่งในด้านการคมนาคมขนส่งนั้นเป็นมากกว่าสนามบิน ประเด็นนี้ได้มีการหารือกันแล้วในเบื้องต้น โดยการดำเนินการนั้นทั้งหมดจะต้องไม่ขัดต่อระเบียบหรือข้อกฎหมาย และเป็นการให้บริการของสนามบินที่มากกว่าสนามบินทั้งหมดจะมีการหารือร่วมกันกับคณะทำงานทั้งในระดับพื้นที่และระดับจังหวัด โดยภาคเอกชนพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานในภาพรวมของหน่วยงานภาครัฐอย่างเต็มที่และสุดความสามารถเพราะทั้งหมดเป็นการพัฒนาบ้านเกิดที่คนขอนแก่นรักและต้องการพัฒนาเมืองที่มีความครบถ้วนและตอบโจทย์ในทุกความต้องการของคนขอนแก่นและผู้ที่มาเยือนเมืองขอนแก่น โดยที่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของเมือง
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดขึ้นนั้นล้วนมีความเป็นไปได้ เพราะคนขอนแก่นนั้นร่วมมือกันทำ จนวันนี้ขอนแก่นเป็นต้นแบบที่หลายจังหวัดและหลายหน่วยงานมาร่วมถอดบทเรียนและนำกลับไปปรับใช้ในการพัฒนาพื้นที่ในด้านต่างๆ อย่างไรก็ตามคนขอนแก่นจะยังคงเดินหน้าพัฒนาเมืองร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ที่สนองต่อความต้องการของประชาชน สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ,จังหวัดและกลุ่มจังหวัด ที่เราจะเดินไปด้วยกัน และในขณะนี้ยังคงมีหลายอย่างที่คนขอนแกนต้องการและคาดหวังไว้ แต่เราก็อดทนรอและรับได้ในความเป็นจริงและร่วมกันทำอย่างสุดความสามารถและพัฒนาคณะทำงานแบบรุ่นสู่รุ่นเพื่อให้เกิดการต่อยอดแนวทางการทำงานในด้านต่างๆต่อไปอย่างยั่งยืน”
