ขอนแก่น นักเคลื่อนไหวและคนเกษียณแห่สมัครผู้ตรวจการเลือกตั้งวันแรก
เปิดรับสมัครผู้ตรวจการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่แทน กกต.วันแรก ปรากฏว่าคนให้ความสนใจเดินทางมาสมัครไม่ขาดสาย โดยเฉพาะฝ่ายองค์กรเอกชน และคนเกษียณ
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่น โดยวันนี้ได้มีการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง เพื่อทำหน้าที่ในการเป็นกรรมการจัดการเลือกตั้ง ส.ส. สว.และนักการเมืองท้องถิ่นที่คาดว่าจะมีขึ้นในต้นปีหน้านี้ โดยวันนี้เป็นวันแรกของการเปิดรับสมัครทั่วประเทศโดยรับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 22 มิถุนายน 2561 ระหว่างเวลา 08.30 – 16.30 น.ทุกวัน เว้นวันหยุดราชการ
ซึ่งบรรยากาศโดยทั่วไปปรากฏว่าได้มีผู้สนใจเดินทางมาสมัครจำนวนมาก โดยบางคนอยู่ระหว่างการเดินทาง บางคนได้โทรศัพท์สอบถามมาทาง กกต.เพื่อทราบถึงวิธีการ ขั้นตอน ของการรับสมัคร ซึ่งผู้ที่สนใจมาสมัครส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานในองค์กรเอกชน และข้าราชการเกษียณ โดยที่จังหวัดขอนแก่น ผู้ที่เดินทางมาสมัครเป็นคนแรกคือนายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ อายุ 62 ปี ประธานองค์การต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น คนที่สองคือนายกิตติรัตน์ บุญเกาะ อายุ 67 ปี เป็นอดีตปลัดอำเภออาวุโส อำเภอภูผาม่าน
นายมนตรี สิมมาคำ เจ้าพนักงานเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การรับสมัครบุคคลเข้ารับการคัดเลือกเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 เพื่อคัดเลือกบุคคลเข้ามาทำหน้าที่แทน คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด(กกต.จว.) ซึ่งถูกยุบไป
สำหรับขั้นตอนการคัดเลือกเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งนั้น ทางคณะกรรมการสรรหาซึ่งมี ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานโดยตำแหน่ง จะทำการคัดเลือกผู้ที่มาสมัครในครั้งนี้ให้เหลือจำนวน 16 คน จากนั้น กกต.จะคัดเลือกให้เหลือ จังหวัดละ 8 คนเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าว แต่ในจำนวน 8 คนนี้อาจจะไม่ได้อยู่ปฏิบัติหน้าในจังหวัดของตนเอง โดยทาง กกต.จะเป็นผู้จับฉลากว่าใครจะได้ทำหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดที่ตนเองอยู่ จำนวน 2 คน ที่เหลือก็ให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดข้างเคียงในกลุ่มเขตตรวจการเลือกตั้ง ซึ่งในกลุ่มเขตการเลือกตั้งของจังหวัดขอนแก่นมีทั้งหมด 8 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย หนองคาย สกลนคร นครพนม และบึงกาฬ โดยทั้งหมดจะมีวาระในการปฏิบัติหน้าที่คราวละ 5 ปี
ด้านนายตุลย์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางมาสมัครในครั้งนี้ว่า ในอดีตที่ผ่านมาตนมองว่า กกต.ทำงานไม่เข้มแข็ง ไม่สามารถจับผู้ที่กระทำผิดตามกฎหมายเลือกตั้งได้ ดังนั้นเมื่อมี รัฐธรรมนูญใหม่ออกมา ตนมั่นใจว่าจะสามารถทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถนำคนผิดมาลงโทษได้ ตนจึงอยากเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือสังคมในจุดนี้ ส่วนที่ว่าหลังจากที่ได้รับเลือกจากการสรรหาให้เป็นผู้ตรวจการเลือกตั้งแล้วอาจจะไม่ได้ทำหน้าที่อยู่ในจังหวัดของตนเอง อาจจะได้ไปปฏิบัติหน้าที่อยู่จังหวัดอื่นนั้นตนมองว่าไม่มีปัญหา และพร้อมที่จะไป แต่ถ้าเป็นจังหวัดที่อยู่ติดกันก็ดีหน่อยเพราะเราทราบข้อมูลดี แต่ถ้าเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ไม่ติดต่อกัน ก็อาจจะเสียเวลาในหาข้อมูลของพื้นที่
