รวบแล้วโจรงัดร้านขายฝากขอนแก่นได้ทรัพย์สินรวมกว่า2แสนบาท สารภาพหาเงินซื้อยาบ้า
ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ตามรวบโจรแสบขับเก๋งมากลางดึก งัดประตูร้านขายฝากกลางเมืองขอนแก่น ฉกทรัพย์สินไปหลายสิบรายการ รวมมูลค่ากว่า 2 แสนบาทภายในบ้านพัก สารภาพต้องการนำทรัพย์สินไปขายหาเงินซื้อยาบ้า
จากกรณีมีโจรเป็นชายสวมหมวกแก๊ป ขับรถเก๋ง ฮอนด้า แอคคอร์ด สีทอง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดที่บริเวณหน้าร้านชัยเจริญชาร์เตอร์ ตั้งอยู่เลขที่ 205 ถ.รื่นรมย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นร้านขายฝากอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนจะลงมาใช้คีมตัดเหล็ก ตัดแม่กุญแจที่ล็อคประตูหน้าร้าน แล้วแง้มประตูเหล็กขึ้นเล็กน้อยให้สามารถเอาตัวลอดเข้าได้ แล้วมุ่งตรงไปหยิบเอากรรไกรที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานในร้านงัดลิ้นชัก และกวาดทรัพย์สินที่รับฝากทั่วทั้งร้านไปหลายสิบรายการ รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท ขึ้นรถหลบหนีไปอย่างลอยนวล เมื่อช่วงตี 3 ของวันที่ 23 พ.ค.2561 ที่ผ่านมา ซึ่งทางนายณัฐพล พงษ์ปินานุรัตน์ อายุ 52 ปี เจ้าของร้านชัยเจริญชาร์เตอร์ ได้นำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกใบหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมตั้งรางวัลนำจับเป็นเงิน 10,000 บาท
ล่าสุด พ.ต.ท.วงศกร วันชัย สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สามารถติดตามจับกุมโจรรายนี้ได้แล้ว คือ นายศราวุธ ประชุมชน หรือ "มด" อายุ 36 ปี ชาว ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ภายในบ้านพักไม่มีเลขที่ กลางทุ่งนาบ้านหนองคู ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น พร้อมรถเก๋งคันที่ใช้ก่อเหตุ หมายเลขทะเบียน ญล 7965 กทม. อุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุทั้งคีมตัดเหล็กและแชลง รวมทั้งของกลางที่นายศราวุธขโมยมาจากร้านขายฝากกว่า 10 รายการ ทั้งกล้องถ่ายภาพดิจิตอล 1 ตัว กล้องDSLR 1 ตัว โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 5 เครื่อง ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในรถเก๋งคันที่ใช้ขับมาก่อเหตุทั้งหมด
จากการสอบสวนนายสราวุธ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ซึ่งหลังก่อเหตุได้นำทรัพย์สินที่ขโมยมาบางส่วนไปขายตามร้านรับจำนำในพื้นที่ภาคกลาง และนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ซึ่งตนเองตกงานไม่มีงานทำจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุดังกล่าว
ซึ่งจากการสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายสราวุธ ผู้ต้องหาในคดีนี้ยังเคยก่อเหตุลักทรัพย์มาแล้ว 6 ครั้ง ในพื้นที่อื่น และเพิ่งพ้นโทษข้อหาลักทรัพย์เมื่อปี 2559 ก่อนจะมาถูกจับอีกครั้งเมื่อช่วงเย็นวันนี้ (26 พ.ค.2561) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการขยายผลตรวจยึดของกลางส่วนที่เหลือมาส่งคือให้กับเจ้าของต่อไป หลังการสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหา”ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน , โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ ,โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่กระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” ต่อไป
