ธอส เปิดตัว   


5 เมษายน 61 11:37:31
 
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับการก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) ของประเทศไทยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มี พันธกิจ : ทำให้คนไทยมีบ้าน จึงให้ความสำคัญกับการสนับสนุนผู้สูงอายุได้มีที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมกับการดำรงชีวิต พร้อมไปกับการได้อยู่ร่วมกับบุคคลอันเป็นที่รักในครอบครัวอย่างมีความสุขตลอดไป
 
ล่าสุดทาง ธอส.ได้เตรียมวงเงิน 3,000 ล้านบาทและเปิดตัว "สินเชื่อบ้านบุพเพสันนิวาส" อัตราดอกเบี้ย 10 ปีแรก คงที่ 3.99% ต่อปี ปีที่ 11 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้ กรณีสวัสดิการ อัตราดอกเบี้ย MRR-1.00% ต่อปี กรณีลูกค้ารายย่อย เท่ากับ MRR-0.50% ต่อปี กรณีกู้ซื้ออุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส.เท่ากับ 6.75% ต่อปี)
 
สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ NPA ของ ธอส. และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก ที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัยพร้อมกับกู้เพื่อซื้อ ให้ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึงอายุ 75 ปี (เฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพตามที่ธนาคารกำหนด) ยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2561และสิ้นสุดระยะเวลาทำนิติกรรมเมื่อสินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการตามที่ธนาคารกำหนด
 
"สินเชื่อบ้านบุพเพสันนิวาส" ผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ธนาคารกำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ยาวนานที่สุดในปัจจุบัน 10 ปีแรก ลูกค้าจะไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระบ้านเพิ่มขึ้น จึงสามารถวางแผนการใช้จ่ายเงินได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมกับเปิดโอกาสให้ใช้อายุของผู้กู้ร่วมที่มีอายุน้อยกว่ากำหนดระยะเวลาการกู้ให้นานขึ้นได้สูงสุดไม่เกิน 40 ปี และยังช่วยลดจำนวนเงินงวดผ่อนชำระในแต่ละเดือนลงได้ นายฉัตรชัยกล่าว
 
สำหรับแนวทางการดำเนินงานของ ธอส. ในปีนี้  นายฉัตรชัย ยืนยันว่า ธนาคารยังคงเดินหน้าคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อทำให้คนไทยมีบ้าน พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัยให้คนไทย ศึกษาพฤติกรรมและความต้องการลูกค้าเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้ Big Data
 

 
ในปี 2561 ธนาคารกำหนดให้เป็นปีแห่งการก้าวเข้าสู่ Digital Services อย่างเต็มรูปแบบ ตาม แผน Digital Transformation ยกระดับการให้บริการเริ่มจาก โครงการ Payment Gateway ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญ ในการพัฒนาช่องทางการชำระหนี้เงินกู้ โดยภายในสิ้นปี 2561 จำนวนธุรกรรมชำระหนี้เงินกู้ผ่านเครื่อง LRM Dynamic QR Code และ GHB Mobile Application จะไม่ต่ำกว่า 30% ของจำนวนที่มาชำระเงินกู้ที่สาขา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าประชาชนในยุค 4.0
 
ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) โทร 0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th และ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์
 
 
ขอบคุณภาพและข่าวจากเดลินิวส์ https://www.dailynews.co.th/economic/636101
 






เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS