ป.ป.ท.ลุย โกงเงินคนจน ฟัน5ราย! สอบผู้เสียหาย พบความผิดชัด จ่อเช็ก37ศูนย์ ล้างบางทั่วปท.   


12 กุมภาพันธ์ 61 09:01:11

ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท.ลงพื้นที่ตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นโกงเงินช่วยเหลือคนจน 6.9 ล้านบาท พบชาวบ้าน อ.เวียงเก่า 90 คน มีรายชื่อในบัญชีเบิกจ่ายแต่ทุกคนไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว คณะอนุกรรมการ ป.ป.ท.เดินหน้าสอบสวนเจ้าหน้าที่ระดับสั่งการและผู้ปฏิบัติการของศูนย์ฯ 5 คนทำความผิดชัดเจน รอสรุปผลใน 6 เดือน เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. เฝ้าคุ้มครองดูแลความปลอดภัยนักศึกษาสาวผู้ร้องเรียนที่ถูกกันตัวไว้เป็นพยาน คสช.สั่งตรวจสอบ 37 ศูนย์ฯ ทั่วประเทศป้องกันเหตุฉาวโฉ่ซ้ำรอย

ป.ป.ท.เดินหน้าสอบสวนกรณีนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร้องเรียนสำนักงานเลขาธิการ คสช.ว่า ขณะฝึกงาน 4 คนในตำแหน่งนักพัฒนา ชุมชน ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น เมื่อเดือน ส.ค.ถึง พ.ย.60 ถูกนางพวงพะยอม จิตรคง ผอ.ศูนย์ฯและเจ้าหน้าที่อีก 2 คนให้กรอกเอกสารและปลอมลายมือชื่อของประชาชนที่รับเงินสงเคราะห์รวมกว่า 6.9 ล้านบาท กระทั่งมีคำสั่งย้ายนางพวงพะยอมและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ขณะที่ น.ส.อ้อ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี นักศึกษาสาวผู้ร้องเรียนออกมาแฉด้วยว่า นำเรื่องไปบอกอาจารย์กลับถูกกล่าวหาว่าโกหก ซ้ำยังถูกอาจารย์บังคับให้กราบเท้าขอโทษเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ

ความคืบหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท.เขต 4 จ.ขอนแก่น เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ก.พ. พ.ต.ท. วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการป.ป.ท. เดินทางมาตรวจสอบความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนกรณีดังกล่าว โดยมี น.ส.อ้อ นักศึกษาสาวผู้ร้องเรียน มาขอเข้าพบเพื่อยื่นเรื่องขอคุ้มครองความปลอดภัย จากนั้นมีการพูดคุยกันประมาณ 30 นาที พ.ต.ท.วันนพเผยว่า หลังจากสำนักงานเลขาธิการ คสช.รับเรื่องร้องเรียน ได้สั่งการให้ ป.ป.ท.ตรวจสอบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เขต 4 ตรวจพบว่ามีมูลตามที่ร้องเรียนทั้งหมด จากนี้ไปจะรวบรวมหลักฐานเข้าสู่กระบวนการไต่สวน นอกจากนี้ จะลงพื้นที่พบปะชาวบ้านผู้ที่มีรายชื่อรับเงินช่วยเหลือทั้งคนไร้ที่พึ่งในพื้นที่ อ.เวียงเก่า และชาวบ้านกลุ่มส่งเสริมอาชีพ อ.บ้านฝาง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามบัญชีการเบิกจ่าย จากนั้นจะสรุปรายละเอียดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท.เผยต่อไปว่า ในปี งบประมาณ 2560 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) จัดสรรงบประมาณอุดหนุนเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งจำนวนทั้งสิ้น 493,742,900 บาท ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นได้รับงบประมาณ 6,854,000 บาท มีวัตถุประสงค์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งแบ่งเป็น 3 กลุ่มคือกลุ่มรายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพรายละ 2,000 บาท เงิน สงเคราะห์ผู้ติดเชื้อเอดส์รายละ 2,000 บาท และทุนประกอบอาชีพของผู้มีรายได้น้อยรายละ 3,000 บาท พบพฤติกรรมการทุจริตว่า กลุ่มรายได้ไม่เพียงพอต่อการครองชีพไม่ได้รับเงินช่วยเหลือเลย ส่วนกลุ่มเงินสงเคราะห์ผู้ติดเชื้อเอดส์ได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 1,000 บาท และกลุ่มทุนประกอบอาชีพของผู้มีรายได้น้อยได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 1,000 ถึง 2,000 บาท ซึ่งขัดกับข้อเท็จจริงในฎีกาเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือตามโครงการที่มีการเบิกจ่ายเงินเต็มจำนวน มีผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือใน 22 อำเภอรวมทั้งหมด 3,276 คน

ด้าน น.ส.อ้อ เผยว่า เข้าพบผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท.เพื่อยื่นเรื่องเพิ่มเติมและร้องขอความคุ้มครองเนื่องจากครอบครัวเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเพราะยังต้องเดินทางลงพื้นที่ทำการวิจัย เมื่อร้องขอไปมีเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ขอนแก่น มาคอยดูแล รู้สึกดีใจและอุ่นใจขึ้นมาก

ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. นายทองสุข ณ พล นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ ป.ป.ท.เขต 4 พล.ต.กาจบดินทร์ ยิ่งดอน ผอ.กอ.รมน.จ.ขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่เดินทางไปที่ รพ.สต.เขาน้อย อ.เวียงเก่า จ.ขอนแก่น พบชาวบ้าน 90 คน ที่มีรายชื่อในบัญชีเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ทุกคนยืนยันว่าไม่ได้รับเงินช่วยเหลือแม้แต่บาทเดียว

นางหนูกาศ ทองชาติ อายุ 48 ปี และนางบัวบาล อินทร์เผือก อายุ 47 ปี ชาวบ้านเผยว่า เป็น อสม.มาหลายปี เมื่อปี 59 มีเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่มาอบรมโครงการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคจิต และให้ อสม.ที่เข้าอบรมรวบรวมเอกสารประจำตัวผู้ป่วย สำเนาบัตรประชาชนพร้อมทะเบียนบ้านให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเงินช่วยเหลือรายละ 2,000 บาท เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีการติดต่อจากทางศูนย์ฯ แต่อย่างใด

ภายหลังพบปะชาวบ้านและทราบข้อมูลทั้งหมดแล้ว พ.ต.ท.วันนพกล่าวว่า ชาวบ้านที่มีชื่อไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากศูนย์ฯแม้แต่รายเดียว จากนี้ ป.ป.ท.จะเดินหน้าสืบสวนสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ในระดับสั่งการและผู้ปฏิบัติการของศูนย์ฯจำนวน 5 คนขณะนี้มีมูลการทำความผิดชัดเจน จะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยคณะอนุกรรมการของ ป.ป.ท.จะสรุปการกระทำความผิดของแต่ละคนว่าใครเกี่ยวข้องในส่วนใดบ้าง คาดว่าจะสรุปสำนวนได้ภายใน 6 เดือน

ผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวถึงกรณีที่นักศึกษาผู้ร้องเรียนวิตกกังวลว่าจะมีความผิดคดีอาญาในการปลอมลายมือชาวบ้านว่า ดูจากพฤติกรรมแล้วไม่มีเจตนากระทำความผิด แต่ที่ทำไปเพราะอยู่ในช่วงฝึกงานและถูกสั่งให้ทำ จึงไม่มีความผิด เจ้าหน้าที่จะกันตัวไว้เป็นพยาน เรื่องนี้ต้องขอบใจนักศึกษาที่กล้าเปิดเผยเรื่องจริงทั้งหมดพร้อมหลักฐาน ถ้าไม่ร้องเรียนคงไม่ทราบเรื่องนี้ หลังเกิดเรื่องอื้อฉาว คสช.สั่งการให้ ป.ป.ท.ตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศทั้ง 37 ศูนย์เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก

ที่มา https://www.thairath.co.th/content/1201762







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS