เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่  5 ม.ค. ที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ขอนแก่น  ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ได้มี นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 1 / 2561 ซึ่งมี  นายอภิชัย จำปานิล รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ขอนแก่น ดำเนินการประชุม พร้อมกับมีคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น เข้าประชุมอย่างพร้อมเพียง ซึ่งมาจาก ทหาร มทบ.23,ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 6 ขอนแก่น,สำนักชลประทานที่ 6 ,ชลประทานขอนแก่น,โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย, โรงไฟฟ้าฝ่ายผลิต (เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น)ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น

 

 

สืบเนื่องจาก คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น  ได้รับหมายแจ้งจากศาลปกครองขอนแก่น ตามคดีหมายเลขดำที่ 184/ 2560 ลงวันที่ 21 พ.ย. 2560ระหว่าง นางปรีญารัตน์ นวลสิงห์ (ผู้ร้องที่ 1) และ นายธีรภัทร ทะควง (ผู้ร้องที่ 2) ขอฟ้องคดี โดยผู้ถูกฟ้องคดี คือ คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจังหวัดขอนแก่น (ผู้ถูกฟ้องคดีที่1), การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(ผู้ถูกฟ้องคดีที่2)  และกรมชลประทาน(ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) 

  

ผู้ฟ้องคดีทั้งสองฟ้องว่า ได้รับความเสียหายจากการที่คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำจ.ขอนแก่น มีมติอนุญาตให้เขื่อนอุบลรัตน์ปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็นเหตุให้น้ำท่วมโรงแรมบ้านสวนชมดาวรีสอร์ทสูงกว่า 2- 3  เมตร ประมาณ 1 เดือน ซึ่งเป็นสถานประกอบกิจการของผู้ฟ้องคดีทั้งสองได้รับความเสียหาย จึงนำคดีมาฟ้องต่อศาลปกครองขอนแก่น โดยที่ผู้ฟ้องคดีทั้งสองมีคำขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลมาพร้อมกับคำฟ้อง

 

 

นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น ได้ประชุมกลุ่มย่อยมาแล้ว วันนี้ประชุมคณะกรรมการฯทั้งหมดมีมติให้คัดค้านคำขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง พร้อมกับมีมติให้ผู้แทนจากหน่วยงานประกอบด้วยสำนักงานชลประทานที่ 6, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนอุบลรัตน์ และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น ร่วมกันจัดทำคำคัดค้านฯ โดย นายอนุชิต ตะภา นิติกร สำนักชลประทานที่ 6 เสนอตัวเป็นผู้เขียนคำคัดค้านฯ เพื่อจะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยให้เจ้าหน้าที่ สนง.ปภ.จว.ขอนแก่น จัดหาข้อมูลสนับสนุนตามมติเห็นชอบคำคัดค้านคำขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง นอกจากนี้มติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น ขอมอบอำนาจในการดำเนินการคัดค้านคำขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลของผู้ฟ้องคดีทั้งสองให้กับ นายอภิชัย จำปานิล รรท.หน.สนง.ปภ.จว.ขอนแก่น ทำการแทนในฐานะคณะกรรมการฯ

 

 

นายอภิชัย   กล่าวว่า ตนในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น ได้เชิญคณะกรรมการฯเพื่อเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย ปี 2560 มาโดยตลอด จนถึงปัจจุบันได้มีการประชุมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรายงานสถานการณ์ภัยแล้ง อุทกภัย สรุปผลการดำเนินงาน ตลอดจนปัญหาอุปสรรคที่พบ พร้อมแนวทางแก้ไขปัญหา และเตรียมความพร้อมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2561

 

 

โดยเฉพาะเมื่อเดือนตุลาคม 2560 จังหวัดขอนแก่นได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และได้ออกประกาศจังหวัดขอนแก่นทั้งสิ้น 10 ฉบับ เป็นการบรรเทาและแก้ไขสถานการณ์อุทกภัยใน จ.ขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงอย่างทันท่วงที โดยเนื้อหาสาระในประกาศแต่ละฉบับสรุปได้ดังนี้ ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 6 ต.ค.60 เป็นการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำของแม่น้ำชี ลำน้ำเชิญ และลำน้ำพอง แก่ประชาชนที่จะได้รับผลกระทบให้พร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วม น้ำล้นตลิ่ง ฉบับที่ 2  เมื่อวันที่ 9 ต.ค. 60 เป็นการแจ้งเตือนสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ขอนแก่น และแจ้งเตือนประชาชนบริเวณลุ่มน้ำชีตอนบนของจังหวัดให้เตรียมรับสถานการณ์น้ำชีล้นตลิ่ง ฉบับที่ 3 เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 60 เป็นการบริหารจัดการน้ำของจังหวัด เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์มากกว่า 100 ล้าน ลบ.ม/วัน โดยแจ้งเตือนว่าหากระดับน้ำของเขื่อนฯมีระดับสูงกว่า 182.00 ม.เขื่อนฯจะทำการระบายน้ำออกจากเขื่อนฯที่ 35- 45 ล้าน ลบ.ม./วัน โดยจะแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนเฝ้าติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งมาถึงฉบับที่ 10 เมื่อวันที่ 1 พ.ย.60 เป็นการแจ้งการระบายน้ำลดลงของเขื่อนอุบลรัตน์ในรูปแบบขั้นบันได เมื่อวันที่ 13 พ.ย.60 ระบายน้ำ 20.0 ล้าน ลบ.ม./วัน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาอุทกภัยในระดับต่างๆ เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและลดความเสียหายจากอุทกภัยใน จ.ขอนแก่นลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คดีนี้ศาลได้โปรดนัดไต่สวนคำขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล ในวันที่ 9 ม.ค. 2561 เวลา 10.00 น. ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามขอคัดค้านคำขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง เนื่องจากผู้ฟ้องคดีทั้งสองมีรายได้จากการประกอบอาชีพที่มั่นคง ซึ่งจากการประกอบกิจการโรงแรมบ้านสวนชมดาวรีสอร์ทนั้น มีการลงทุนด้านอาคารสิ่งปลูกสร้าง และสิ่งอำนวยความสะดวกในการประกอบกิจการตลอดจนการให้บริการที่พักอาศัยและทำกิจกรรมอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับในการลงทุนธุรกิจผู้ประกอบการโดยทั่วไปย่อมทราบหรือคาดคะเนถึงความเสี่ยงของการลงทุนในการประกอบธุรกิจในผลกำไรหรือขาดทุน ตลอดถึงภาวะความเสี่ยงอื่นๆที่จะเกิดขึ้นต่อการลงทุน ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามได้ประทานกราบเรียนต่อศาลที่เคารพ ขอศาลได้โปรดกรุณามีคำสั่งยกคำขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง และให้ผู้ฟ้องคดีทั้งสองนำเงินค่าธรรมเนียมศาลในอัตราร้อยละ 2 ของจำนวนทุนทรัพย์จำนวน 2,000,000 บาท คิดเป็นเงินจำนวน 40,000 บาท มาวางศาลภายในเวลาที่ศาลกำหนดด้วย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม.