ตร.ภาค 4 จับกุมเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 79 ล้านบาท   


3 พฤศจิกายน 60 23:04:59

ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 พลตำรวจโทสุรชัย ควรเตชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 4 แถลงผลการจับกุมตัวนายศักดา อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดหนองคาย นางวันเพ็ญ อายุ 57 ปี ชาวจังหวัดหนองคายได้พร้อมของกลางคือ ยาไอซ์ จานวน 38 ถุง น้ำหนักรวมถุงประมาณ 38 กิโลกรัม ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 28 แพ็ค 168,000 เม็ด

พลตำรวจโทสุรชัย ควรเตชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าตำรวจที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีชายชาวลาวชื่อ ท้าวคา ได้ติดต่อทางโทรศัพท์มือถือว่าจะให้สายลับนำยาบ้าและยาไอซ์ ไปส่งให้ลูกค้าในเขตภาคใต้ ซึ่งท้าวคาแจ้งว่าจะให้นายศักดา แก้วมุขดา เครือข่ายของตนเป็นคนนำยาบ้ามาส่งให้กับสายลับ โดยท้าวคา พ่อค้ายาบ้า ได้ให้เบอร์โทรศัพท์ของสายลับ กับนายศักดา ผู้นำยาบ้ามาส่ง

ต่อมาเมื่อถึงวันเวลาตามที่นัดหมายไว้ นายศักดาผู้ต้องหาได้โทรศัพท์มาหาสายลับ เป็นคนที่จะนำยาบ้าและยาไอซ์มาส่งให้สายลับ โดยแจ้งที่นัดหมายว่าจะไปรอสายลับที่ริมถนนสาธารณะข้างสถานีรถไฟ บ้านหนองขาม ม.10 ต.หนองกอมเกาะ อ.เมือง จ.หนองคาย หลังจากได้ข้อมูล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางแผนเตรียมจับกุม และเมื่อเดินทางไปถึงพบรถยนต์ต้องสงสัยยี่ห้อ อีซูซุ สีดา หมายเลขทะเบียน ก-0889 หนองคาย ป้ายแดง จอดที่บริเวณนัดหมาย เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเพื่อทำการตรวจสอบ แต่ชายในรถยนต์คันดังกล่าวพยายามขับหลบหนี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงสามารถควบคุมตัวไว้ได้

จากการสอบสวนนายศักดา อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดหนองคาย ทราบว่า ภายในรถยนต์ดังกล่าว ที่มีผู้ต้องหาได้ขับมานั้น มียาไอซ์ จำนวน 38 ถุงน้ำหนักร่วมถุงประมาณ 38 กิโลกรัม ยาบ้า จำนวน 28 แพ็ค 168,000 เม็ด

โดยผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ตนได้รับคำสั่งจากนางวันเพ็ญ ให้นำยาบ้าไปส่งให้สายลับ จากนั้นเจ้าหน้าตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบขยายผลการจับกุม โดยเดินทางไปที่ทำงานของนางวันเพ็ญ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงได้พบนางวันเพ็ญ และได้นำตัวมาทำการสอบสวน โดยนางวัญเพ็ญให้การรับสารภาพว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากท้าวคา ชายชาวลาว ให้ติดต่อหาคนนำยาบ้าและยาไอซ์มาส่งให้สายลับ โดยนางวันเพ็ญ ได้ให้นายศักดา เป็นคนที่นำยาบ้ามาให้สายลับ ได้ค้าจ้างในครั้งนี้เป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท และทำมาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้ก่อน จากมูลค่าของยาบ้าในครั้งนี้ ประมาณ 33,600,000 บาท มูลค่าของยาไอซ์ 45,600,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 79,200,000 บาท พร้อมทั้งยึดทรัพย์สินอีกหลายรายการ

ขอขอบคุณภาพและข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS