รมช.เกษตรฯลุยขอนแก่น จับมือโรงสี MOU ซื้อข้าวอินทรีย์ชาวนาป้อนตลาดส่งออก   


9 ตุลาคม 60 16:30:46

ที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน บ้านหนองหวาย ต.หนองไผ่ล้อม อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นางสาวชุติมา บุญยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการเจรจาจับคู่ธุรกิจและทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการซื้อขายข้าวตามโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร

นางสาวชุติมา บุญยประภัศร รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใส่ใจต่อสุขภาพกันมากขึ้น ทำให้ข้าวอินทรีย์หรือข้าวปลอดสารเคมีเป็นที่ต้องการของตลาดสูงมาก เฉพาะตลาดต่างประเทศมีความต้องการมากกว่า 4 หมื่นตัน แต่ประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตได้มากพอที่จะป้อนตลาดดังกล่าวได้ ดังนั้นรัฐบาลจึงได้จัดทำโครงการ เชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร โดยตั้งเป้าภายใน 5 ปีแรกนี้จะส่งเสริมให้เกษตรกรไทยทำนาข้าวอินทรีย์ให้ได้ 1 ล้านไร่ 

โดยการทำเกษตรอินทรีย์หรือผลิตข้าวอินทรีย์นั้นถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับเกษตรกรไทย จากเดิมเคยใช้ปุ๋ยเคมี ต้องหันมาทำนาข้าวแบบพึ่งพาธรรมชาติ เพื่อให้ได้ผลผลิตข้าวอินทรีย์ 100% เกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการจะมีนักวิชาการเกษตรให้ความรู้และตรวจสอบเกณฑ์มาตรฐาน โดยปีแรกจะได้รับเงินสนับสนุน 2,000 บาท/ไร่ ปีที่ 2 เพิ่มเป็น 3,000 บาท/ไร่ และปีที่ 3 หากผ่านการตรวจสอบก็จะได้รับการรับรองให้เป็นนาข้าวอินทรีย์และข้าว GAP โดยงบอุดหนุนนั้นจะจำกัดนาข้าวเพียง 15 ไร่เท่านั้น

สำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการต้องยอมรับให้ได้ว่าการทำนาข้าวอินทรีย์นั้น ระยะแรก 2-3 ปีขาดทุนแน่นอน แต่หลังจากนั้นเมื่อผ่านเกณฑ์รับรองมาตรฐานแล้ว จะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการทำนาแบบเดิม เพราะราคารับซื้อจากโรงสีคู่ค้าจะได้มากกว่าข้าวทั่วไปอย่างน้อยตันละ 500 บาทและมีตลาดรองรับไม่จำกัด

ดร.พัฒนา นุศรีอัน เกษตรและสหกรณ์ จ.ขอนแก่น ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แบบเบ็ดเสร็จจังหวัดขอนแก่น ระบุว่า โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์ และข้าว GAP ครบวงจรของจังหวัดขอนแก่นมีโรงสีเข้าร่วมโครงการ ฯ 4 ราย คือ 1.บริษัท เค.ซี รุ่งเรืองการเกษตร จำกัด 2.บริษัท เภเลกรีนา ไรซ์ จำกัด (กรุงเทพฯ) 3.บริษัท สำเภาทอง กรุ๊ป จำกัด (ปทุมธานี) และ 4.สหกรณ์การเกษตรเพื่อการเกษตรลูกค้า ธ.ก.ส.ขอนแก่น จำกัด โดยจะรับซื้อข้าวจากโครงการฯทั้งหมด จำนวน 32,900 ตัน 

นอกจากนี้ยังมีโรงสีข้าวที่ยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการเพิ่มเติมอีก 4 ราย โครงการ คือ บจก.เอี่ยมพิทักษ์ (อ.บ้านไผ่) 2. บจก.เกษตรสินโกลเด้นไรซ์ (อ.บ้านแฮด) 3.บจก.โรงสีข้าว ป.ณัฐตพล (อ.พล) 4.บจก.โรงสีข้าวมีชัย (อ.ชุมแพ)

"การลงนาม MOU เฉพาะจุดสหกรณ์เครดิตยูเนียนเนี่ยนหนองสองห้อง มีโรงสีเข้าร่วมลงนาม 8 ราย มีกลุ่มเกษตรกรลงนามร่วมทั้งหมด 48 กลุ่ม และเป็นกลุ่มเกษตรนาแปลงใหญ่อีก 2 กลุ่ม ถือว่าเป็นการเริ่มต้นโครงการที่ดีมาก" ดร.พัฒนากล่าว 

 

ขอขอบคุณภาพและข่าวจาก MGR Online







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS