หนุ่มร้องสื่อ ถูกแก๊งโจ๋ขอนแก่นรุมทำร้าย ซ้ำขโมยพระเลี่ยมทองมูลค่ากว่าล้านบาท   


10 พฤษภาคม 60 15:47:22

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้( 10 พ.ค.) ที่ ร้านกาแฟคอฟฟี่ เด้อ หล่า ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นายผดุงเกียรติ สกุลหิรัญวาณิช อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175 ม.1 บ.สำโรง ต.สำโรง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น นักธุรกิจจังหวัดขอนแก่น นัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีปัญหาถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่าจากกลุ่มกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่น

นายผดุงเกียรติ เล่าว่า เมื่อคืนวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และได้มีเรื่องชกต่อยกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง โดยระหว่างชกต่อยกันชุลมุนนั้นกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีได้กระชากสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท พร้อมพระปิดตาหลวงปู่ไข่ วัดบางเลน มูลค่าหลักล้านบาทเอาไปด้วย

หลังเกิดเหตุ ในวันที่ 7 พ.ค. 2560 เวลากลางคืน ได้มีการนัดไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ชื่อเล่นว่า “แชมป์” โดยให้ไปพบกันสองต่อสอง โดยใช้ ฟิตเนสแห่งหนึ่ง บน ถ.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น เป็นสถานที่นัดเจอกัน โดยตนได้เดินทางไปคนเดียวตามข้อตกลง แต่กลับพบว่าคู่กรณี ได้พา กลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมพกพาอาวุธปืนมาด้วย 

ในระหว่างเจรจาพูดคุยกันอยู่นั้น ทางคู่กรณีได้ชกเข้าที่ บริเวณใบหน้าของตน จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่ ทำให้ตนต้องวิ่งออกจากร้านไปที่รถยนต์ส่วนตัวจอดอยู่ จากนั้น กลุ่มชายฉกรรจ์วิ่งตามาได้ยิงปืนใส่ 1 นัดแต่พลาด

ตนจึงคว้าเอามีดที่อยู่ในรถแทงกลุ่มฉกรรจ์ เพื่อป้องกันตัว จนทำให้มีผู้ได้รับเจ็บ 2 ราย ซึ่งต่อมาได้เข้าทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลขอนแก่น

จากนั้นตนรีบขับรถออกมาจากฟิตเนส และไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และไปตรวจร่างกาย บริเวณที่ถูกทำร้าย ที่โรงพยาบาลขอนแก่น เช่นกัน เพื่อขอใบรับรองแพทย์ ไว้เป็นเรื่องยืนยันว่าตนเองได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย

ทั้งนี้ในระหว่างการแถลงข่าวนายผดุงเกียรติได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านฟิตเนส ให้สื่อมวลชนได้ดู โดยภาพวงจรปิดสามารถบันทึกเหตุการณ์ กลุ่มชายฉกรรจ์กำลังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันภายในร้าน ก่อนที่จะมีการชักอาวุธ ปืนออกมา ข่มขู่ ก่อนที่กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมด จะวิ่งออกไปทำร้ายกันต่อหน้าร้าน หลังเหตุการณ์ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย โดยทั้งคู่ถูกอาวุธมีดแทงเข้าลำตัว ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา


       
"หลังเกิดเหตุ คนที่ได้รับบาดเจ็บจากคม ได้นำภาพบางส่วนไปโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า ฝ่ายตนเองเป็นผู้กระทำ ทำให้กระแสสังคมโซเชียลแสดงความเห็นโจมตีตนด้วยถ้อยคำรุนแรง ว่ากระทำเกินกว่าเหตุ ทั้งๆที่ความเป็นจริงตนต่างหากที่เป็นผู้ที่ถูกรุมทำร้าย จนใบหน้าฟกช้ำไปหมด” นายผดุงเกียรติกล่าวและบอกว่า เหตุผลที่ตนต้องออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้สังคมได้รับทราบข้อมูล เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้ง 2 ฝ่าย และขอความเห็นใจจากสังคมว่า ตนเองเป็นผู้ถูกกระทำไม่ได้เป็นคนร้าย เหมือนที่สังคมในโลกโซเชียลเข้าใจผิดและกล่าวโจมตีต่างๆนานาก่อนหน้า
       
อย่างไรก็ตาม ในส่วนคดีความขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ที่จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป และสำคัญที่สุดตอนนี้ คือตนต้องการของกลางที่เป็นพระเหลี่ยมทอง และสร้อยคอทองคำคืนก็เท่านั้น 

ขอขอบคุณภาพและข่าว







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS