ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 6 จ.ขอนแก่น พร้อมส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วรับบริจาคโลหิตถึงบ้าน หลังเลือดคงคลังหมดเกลี้ยงทุกกรุ๊ป (มีคลิป)
ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 6 จ.ขอนแก่น สภากาชาดไทย พร้อมส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วรับบริจาคโลหิตถึงบ้าน หลังเลือดคงคลังหมดเกลี้ยงทุกกรุ๊ป รพ.ทั่วอีสานขอเบิกทุกวัน แต่ต้องรอ 5 วันจึงจะเบิกจ่ายได้ ขณะที่ประชาชนทยอยมาบริจาคบางตา
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 13 ม.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ศูนย์รับบริจาคโลหิต ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 6 จ.ขอนแก่น สภากาชาดไทย ซึ่งตั้งอยู่ริม ถ.มิตรภาพ ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ก่อนถึงสำนักงานขนส่ง จ.ขอนแก่น แห่งที่ 2 มีประชาชนผู้ใจบุญทยอยเดินทางมาบริจาคโลหิตกันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่คึกคักเหมือนกับในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งทุกคนที่เข้ามาบริจาคหิตจะต้องผ่านการตรวจคัดกรองและปฎิบัติตามมาตรการคุมเข้มจากสถานการณ์การแพร่ระบาดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ซึ่งผ่านการตรวจคัดกรองแล้วก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการบริจาคโลหิตโดยมีทีมพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์คอยให้คำแนะนำตั้งแต่กระบวนการการลงทะเบียนผู้บริจาคโลหิต การพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ การเก็บตัวอย่างโลหิตเพื่อตรวจสอบค่าโลหิต และเข้าสู่ขั้นตอนของการบริจาคโลหิต ซึ่งแต่ละคนใช้เวลาในการบริจาคโลหิตไม่ถึง 15 นาที ก็แล้วเสร็จและนั่งพักคอยในจุดบริการผู้มารับบริจาค ซึ่งสภากาชาดไทยได้กำหนดพื้นที่รับรองที่สวยงาม หรูหรา เหมือนกันยกร้านกาแฟชื่อดังมาไว้ให้บริการเลยทีเดียว
นางวิราศิณี ชัยมณี หัวหน้าภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 6 จ.ขอนแก่น สภากาชาดไทย กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าขณะนี้เลือดคงคลังในการจัดทำสต๊อกของภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 6 จ.ขอนแก่น วันนี้ทุกกรุ๊ปเลือดนั้นหมดแล้ว เพราะอยู่ในกระบวนการและขั้นตอนของการเบิกจ่ายให้กับโรงพยาบาลในเขต จ.ขอนแก่น,อุดรธานี,หนองคาย,หนองบัวลำภู,บึงกาฬ,สกลนครและเลย รวมทั้งการส่งจ่ายให้กับพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงคือที่ จ.กาฬสินธุ์,ร้อยเอ็ด,มหาสารคาม และ จ.ชัยภูมิ ซึ่งมี รพ.ที่จะต้องเบิกจ่ายโลหิตกับภาคฯ อยู่ที่ 72 รพ. และแต่ละวัน จะเบิกจ่ายอยู่ที่วันละ 15 รพ. ซึ่งจากปริมาณเลือดคงคลังที่ไม่มีกักเก็บเนื่องจากมีการเบิกจ่ายทุกวัน ทำให้ แต่ละ รพ.หากทำเรื่องขอเบิกมาวันนี้จะต้องรอไปอีก 5 วัน และ ภาคฯสามารถจ่ายเลือดให้กับ รพ.ได้เพียงร้อยละ 20 ของการเบิกจ่ายเท่านั้น เท่ากับว่า หาก รพ.ใด ขอเบิกเลือด 10 ถุง ภาคฯสามารถจ่ายให้ได้ 2 ถุง และต้องรอ 5 วันเพื่อให้ได้เลือดมาก่อน
“ตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค. จนถึงวันที่ 11 ม.ค. ภาคฯ มีผู้มาบริจาคเลือดเพียง 398 ยูนิต จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ว่าเดือน ม.ค.เราจะมีเลือดประมาณ 2,500-3,000 ยูนิต เป็นเพราะทุกคนไม่กล้าออกจากบ้านจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นรวมทั้งการออกหน่วยรับบริจาคก็ไม่สามารถทำได้เนื่องจากทุกหน่วยงานงดการจัดกิจกรรมต่างๆขึ้น ดังนั้นวันนี้ทุกจุดรับบริจาคเลือดทั้งในส่วนของ รพ.และสภากาชาดไทย เดินหน้ารณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมาร่วมบริจาคโลหิตที่จุดรับบริจาค และขอให้มั่นใจว่ามาตรการคุมเข้มด้านสาธารณสุขของทุกจุดรับบริจาคนั้นเป็นไปอย่างเข้มงวด รัดกุม และปลอดภัยสูงสุด”
นางวิราศิณี กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ ภาคฯได้กำหนดชุดเฉพาะกิจที่เป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ทำการประสานงานร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ในการขอหน่วยรับบริจาคเคลื่อนที่เพื่อให้ได้เลือดมาไว้ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีจำนวนรอการรับเลือดอีกเป็นจำนวนมากและทุกวัน โดยหากหน่วยงานใด รวมตัวกันได้ 20 คน ชุดเคลื่อนที่เร็วก็จะออกไปรับบริจาคถึงที่โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 ชม. โดยที่ภาคฯจะประสานงานร่วมกับฝ่ายสาธารณสุข เพื่อเว้นระยะห่าง และจัดเตรียมพื้นที่ตามมาตรการคุมเข้มโควิด-19 ซึ่งขณะนี้มีประสานงานมาอย่างต่อเนื่องแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ตำรวจทางหลวง,โรงเรียน,และหน่วยงานต่างๆ ที่ทราบข่าวว่าเลือดของเรานั้นหมดคงคลังจริงๆ อย่างไรก็ตามการบริหารจัดการเลือดในระยะนี้เป็นไปอย่างรัดกุม และให้เพียงพอต่อการใช้รักษาผู้ป่วยที่เบิกจ่ายทุกวัน ซึ่งผู้ป่วยคลอด ต้องสำรองการเบิก รายละ 2 ถุง รวมไปถึงกลุ่มผู้ป่วยโรคเลือดและกลุ่มผู้ป่วยที่ใช้เลือดในการรักษาประจำวัน ดังนั้นจึงขอเชิญชวนให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาร่วมกันมาบริจาคในระยะนี้กันย่างเร่งด่วนเพื่อให้เลือดมีเพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องต่อไป
