ขอนแก่น แก๊งค์มอดไม้บุกตัดต้นพะยุง อายุนับร้อยปีในโรงเรียน
แก๊งค์มอดไม้บุกตัดต้นพะยุง อายุนับร้อยปีในโรงเรียน พังกล้องวงจรปิด-ตัดกุญแจล็อคประตู-ตัดลวดหนามคุ้มกันก่อนตัดโค่นลงมาทั้งต้น โชคดีชาวบ้านพบจึงขนได้ไปเพียง 1 ท่อน ทิ้งทั้งต้นไว้ให้ดูต่างหน้า
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 15 ก.ย.2563 พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ สายสมบัติ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านฝาง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายธณัช เครือมา ส.อบจ.ขอนแก่น เขต อ.บ้านฝาง ลงพื้นที่สอบปากคำเพิ่มเติมและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานหลังเกิดเหตุคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักลอบตัดต้นพะยุงบริเวณริมสนามฟุตบอล ฝั่งประตูทางเข้าโรงเรียนบ้านวังโพน ม.6 ต.ป่ามะนาว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น โดยเมื่อไปถึงพบกับนายรัฐศักดิ์ สุทธิสมพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังโพน และ นายสุริยา หล่อยดา ผู้ใหญ่บ้านบ้านวังโพน ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการเดินตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งพบรอยล้อรถอยู่เต็มพื้นที่ โดยมีต้นพยุงถูกตัดบริเวณโคนต้นความสูงประมาณ 40 เมตรถูกตัดโค่นหักทับลงมาภายในสนามฟุตบอล และจากการตรวจสอบพบว่ากลองวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณเสาไฟฟ้าหน้าโรงเรียนถูกพังทำลายและคนร้ายได้นำไปด้วย ขณะที่กุญแจลอคประตูโรงเรียนถูกคนร้ายทำลายเสียหายเช่นกัน
นายรัฐศักดิ์ สุทธิสมพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังโพน กล่าวว่า ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายเข้ามาก่อเหตุลักลอบตัดต้นพะยุงเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมาจึงได้มาตรวจสอบพร้อมกับผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชน ซึ่งขณะนี้ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเอาผิดคนร้ายกลุ่มนี้แล้ว ซึ่งจากการสอบถามภารโรงและชาวบ้านที่มาถึงจุดที่เกิดเหตุระบุว่า ได้ยินเสียงต้นไม้ล้มลงเสียงดังสั่นซึ่งขณะนั้นครูเวรซึ่งเป็นผู้หญิง ได้เข้าเวรอยู่ภายในโรงเรียน ซึ่งเมื่อได้ยินเสียงต้นไม้ล้มลงจึงได้แจ้งภารโรงและผู้นำชุมชนมาตรวจสอบ ซึ่งในจังหวะที่ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมด้วย ส.อบจ.ขอนแก่น มาถึง คนร้ายได้ขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยมีชาวบ้านเห็นว่าคนร้ายมีไม่น้อยกว่า 8 คน ใช้รถยนต์ตู้สีขาวคาดเขียว ขับเข้ามาจอดใกล้กับต้นพะยุงโดยได้ขนต้นพะยุงไปได้ 1 ท่อน ความยาวประมาณ 2 เมตร มูลค่าประมาณ 200,000 บาท ใส่รถตู้และขับรถหลบหนีไปทาง บ.หินกอง อ.บ้านฝาง
“ในการตรวจสอบเบื้องต้นซึ่งเป็นช่วงเวลากลางคืนจึงได้เสริมไฟส่องสว่างในจุดที่เกิดเหตุและให้เจ้าหน้าที่เฝ้าพื้นที่ไว้ จนกระทั่งรุ่งเช้า กำลังเจ้าหน้าทีได้เข้ามาร่วมตรวจสอบก็พบว่าคนร้ายนั้นได้ทำลายกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ที่เสาไฟฟ้าบริเวณหน้าโรงเรียนจนพังและนำไปด้วย ก่อนที่จะทำลายกุญแจล็อคประตู และขับรถเข้ามาจอดภายในใกล้จุดที่ติดกับต้นพยุง จากนั้นได้ทำลายไฟส่องสว่างที่ติดตั้งอยู่กับตัวต้นพะยุง เท่านั้นยังไม่พอต้นพะยุงต้นนี้ชาวบ้านและโรงเรียนได้นำแท่งเหล็กมายึดติดไว้เพื่อป้องกันการขโมยแต่คนร้ายก็ตัดแท่งเหล็กออกจนหมดก่อนที่จะใช้เลื่อยไฟฟ้าตัดต้นพะยุงจนล้มลง โดยในช่วงที่กำลังตัดต้นพะยุงเป็นท่อนๆ โดยท่อนแรกเพิ่งตัดแล้วเสร็จชาวบ้านได้มาตรวจสอบคนร้ายทั้งหมกจึงขนท่อนไม้พะยุงดังกล่าวขึ้นรถและหลบหนีไป อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้รับทราบ พร้อมทั้งการจัดเวรยามเฝ้าต้นพะยุงที่คงเหลือไว้เพื่อรอการเคลื่อนย้าย อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้นั้นเป็นครั้งที่ 2 แล้วหลังจากเมื้อประมาณ 3 ปีที่ผ่านมาโรงเรียนถูกคนร้ายเข้ามาก่อเหตุตัดไม้พยุงไปได้ 2 ต้นทำให้ชาวบ้านจึงนำลวดหนามและแท่งเหล็กมาคุ้มกันต้นพะยุงไว้และขณะนี้โรงเรียนของเราเหลือต้นพะยุงอายุนับร้อยปีอยู่อีก 2 ต้นที่ต้องดูแลอย่างเต็มที่ที่สุด”
ขณะที่ พ.ต.ท.ศักดิ์สิทธิ์ สายสมบัติ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.บ้านฝาง กล่าวว่า ขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนได้แกะรอยคนร้ายจากกล้องวงจรปิดในเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนี ซึ่งพบว่าคนร้ายนั้นได้ตัดต้นพะยุงอายุกว่า 100 ปี ต้นนี้ล้มลงและสามารถตัดไปได้เพียงท่อนล่าง ความยาวประมาณ 2 เมตรและหลบหนีไปเนื่องจากมีชาวบ้านมาพบเห็นก่อน ขณะที่จากการสอบปากคำเบื้องต้นพบว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 6-8 คนโดยใช้รถตู้สีขาวคาดเขียว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะในการก่อเหตุ ขณะที่พยานระบุว่ามีรถโตโยต้า อีกคันร่วมด้วยก็จะทำการสอบสวนต่อไปแต่ขอไม่เปิดเผยข้อมูลมากกว่านี้เพราะจะส่งผลกระทบต่อแนวทางการสอบสวน อย่างไรก็ดีขณะนี้ได้เร่งสอบปากคำพยานในที่เกิดเหตุตามขั้นตอน ขณะที่ต้นพะยุงต้นนี้ได้ประสานงานร่วมกับชุมชนและโรงเรียนในการทำประชาพิจารณ์เพื่อบริหารจัดการต้นไม้ของชุมชนต้นนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
