ขอนแก่น คืบหน้า ชาวบ้านถูกรัฐทวงเงินเยียวยาคืน สรุปผิดพลาดที่ระบบ ไม่ต้องจ่าย (มีคลิป)
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคลังจังหวัด ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีชาวบ้านใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ได้รับจดหมายจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เพื่อทวงเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท คืน ทั้งที่ไม่ได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว ก่อนได้ข้อสรุปเป็นความผิดพลาดจากระบบชาวบ้านไม่ต้องจ่ายเงินแต่อย่างใด ขณะที่สองสามีภรรยาวอนให้ช่วยเหลือเรื่องงานและเรื่องเงินเพราะตอนนี้ได้รับผลกระทบหนักมาก
เมื่อเวลา 10 .00 น.วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 ที่บ้านเลขที่ 48 ม.2 บ้านเม็ง ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น นางสาวเพ็ญพร แซ่เต็ง นักวิชาการคลังชำนาญการพิเศษ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคลังจังหวัด เดินทางมาเข้าพบกับนายประวิทย์ แนนเกี้ยง อายุ 54 ปี และนางมะลิวรรณ โมลาเลิศ อายุ 51 ปี หลังจากที่นายประวิทย์ฯ ผู้เป็นสามีได้รับจดหมายทวงเงินเยียวยาเดือนละ5,000บาท จากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ซึ่งเมื่อถึงบ้านและพบสองสามีภรรยา ผู้สื่อข่าวจึงได้อ่านหนังสือในจดหมายเงินเยียวยาคืน โดยข้อความในจดหมายระบุว่า
ตามที่กระทรวงการคลังได้มีมาตรการชดเชยรายได้ให้แก่ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบหรือผู้ได้รับผลกระทบอื่นๆของการแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 หรือมาตรการเยียวยา 5,000 บาท 3 เดือน และท่านได้แสดงความประสงค์สละสิทธิ์การได้รับเงินชดเชยตามมาตรการนั้น เพื่อให้การดำเนินการสละสิทธิ์เป็นไปอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ให้นายประวิทย์ แนนเกี้ยง ดำเนินการคืนเงินชดเชยรายได้ทั้งหมดให้กระทรวงการคลังภายใน 7 วัน และลงท้ายว่า จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการคืนเงินชดเชยตามมาตรการด้วยจะขอบคุณยิ่ง
ซึ่งนายประวิทย์ แนนเกี้ยง อายุ 54 ปี ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคลังจังหวัดว่า การลงทะเบียนของตนนั้น ได้นำบัตรประชาชนของตนเองและภรรยาไปให้ลูกหลานลงทะเบียนให้เพราะตัวเองกับภรรยาทำไม่เป็น ซึ่งในการลงทะเบียนดังกล่าวลูกหลานได้ใช้โทรศัพท์มือถือส่วนตัวทำ แต่ข้อมูลทุกอย่างเป็นของตัวเองกับภรรยา เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยก็กลับมาพักผ่อน ทำมาหากินรับจ้างตามปกติ โดยก่อนจะลงทะเบียนได้ไปเปิดบัญชีที่ ธกส.เรียบร้อยจำนวน 300 บาท จนเวลาผ่านไปทั้งสองคนไม่มีใครได้รับเงินแม้แต่บาทเดียว กระทั่งมีจดหมายมาทวงเงินก็ ก็ไม่มีจะคืนให้เพราะไม่ได้รับเงิน
ด้านนางสาวเพ็ญพร แซ่เต็ง นักวิชาการคลังชำนาญการพิเศษ กล่าวว่า หลังสองสามีภรรยามีการร้องทุกข์กับศูนย์ดำรงธรรมสำหรับการคลังจังหวัดในฐานะตัวแทนสำนักงานเศรษฐกิจการคลังได้รับการมอบหมายให้ลงพื้นที่ในการชี้แจงกับทั้งสองคนว่าสำหรับนายประวิทย์ฯ ที่มีการสละสิทธิ์การรับเงิน และยังไม่ได้เงินรับเงินโอนเข้าบัญชี แต่ยังมีหนังสือทวงถามให้คืนเงินนั้นอาจจะเป็นการผิดพลาดในด้านข้อมูลจึงถือว่าหนังสือดังกล่าวเป็นการยุติไม่ต้องคืนเงินใดๆ ส่วนด้านนางมะลิวรรณฯ ภรรยา ตรวจสอบจากข้อมูลพบว่าไม่ผ่านเกณฑ์ในการรับเงินเยียวยาจึงถือว่าไม่ได้รับเงินหากมีหนังสือมาทวงถามก็ให้ถือว่าหนังสือดังกล่าวเป็นการยุติ อย่างไรก็ตามอยากฝากถึงประชาชนที่ลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาหากยังไม่ได้รับเงินเข้าบัญชีและมีการทวงถามคืนเงินเข้าไปก็ไม่ต้องกังวลเพราะสามารถชี้แจงและตรวจสอบข้อมูลได้
ขณะที่นางมะลิวรรณ โมลาเลิศ อายุ 51 ปี ภรรยา กล่าวภายหลังจากได้รับการชี้แจงแล้วว่า ปัจจุบันชีวิตของตนและสามีมีความลำบากเพราะมีอาชีพรับจ้างทั่วไปหลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็พบว่ามีงานน้อยลง บางวันแทบไม่มีเลยปัจจุบันอาศัยเงินจากลูกมีลูกสองคนทำงานอยู่พัทยาและกรุงเทพฯจะส่งเงินมาให้พ่อแม่ เดือนละ 1,000 บาท ที่นาก็ไม่มีทำเหมือนชาวบ้านบางวันต้องไปหาหน่อไม้ หาพืชผักขายตามหมู่บ้านชุมชน เพื่อช่วยเหลือตัวเอง สถานการณ์โควิด-19 ว่าตนได้รับผลกระทบโดยตรงแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาใดใดเลยจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือในเรื่องงานและเรื่องเงินเยียวยาอื่นๆหากเป็นไปได้
ทางด้าน นายเฉลย สถิตชน ผู้ใหญ่บ้าน บ้านเม็ง ม.2 กล่าวว่า สองสามีภรรยามีฐานะยากจนและขณะนี้ไม่ได้ทำอาชีพใดใดเนื่องจากไม่มีใครจ้างจึงเดือดร้อนหนักมากส่วนใหญ่การช่วยเหลือเยียวยาก็มาจากเพื่อนบ้านที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันเท่าที่จะพอทำได้เท่านั้นจึงอยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางในการช่วยเหลือครอบครัวนี้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขอนแก่น ชาวบ้านวอนช่วยเหลือ ได้รับจดหมายให้คืนเงินเยียวยาทั้งที่ยังไม่ได้รับสักบาท (มีคลิป)
