นศ.สาวลงบันทึกประจำวันป้องกันตัว หลังแฉ ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง - นศ.ม.ขอนแก่นอีก8คนที่ถูกนำชื่อไปเบิกเงินร่วมแจ้งความ   


10 กุมภาพันธ์ 61 22:26:42

นศ.สาวลงบันทึกประจำวันป้องกันตัว หลังแฉ ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง - นศ.ม.ขอนแก่นอีก8คนที่ถูกนำชื่อไปเบิกเงินร่วมแจ้งความ

นักศึกษาสาวพร้อมเพื่อน ลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ หลังแฉการปลอมแปลงเอกสารของศูนย์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งขอนแก่นเพื่อรับเงินผู้ด้อยโอกาส ระบุถูกบังคับให้ทำ ไม่ได้สมัครใจ ในขณะที่มีนักศึกษา มข.ถูกเอาชื่อไปเบิกเงินอีก 8 คน ได้ร่วมลงบันทึกประจำวันด้วย ด้านแม่ของนักศึกษาสาวดีใจที่ลูกกล้าออกมาเปิดโปง เพราะตนสอนให้ลูกเป็นคนดียอมไม่ได้ที่ลูกถูกบังคับให้ทำแบบนี้
 


จากกรณีนางน้อมจิตต์ ยศปัญญา อายุ 52 ปี พร้อมด้วย น.ส.ปนิดา ยศปัญญา อายุ 22 ปี นักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน กรณีพบการปลอมแปลงเอกสารของศูนย์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ภายหลังจากที่ได้มีการเรื่องร้องเรียนต่อเลขาธิการ คสช. และป.ป.ช.ขอนแก่น แต่ไม่มีความคืบหน้า เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และต้องการช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนเนื่องจากมีชื่อรับเงินแต่กลับไม่ได้รับเงิน รวมมูลค่ากว่า 6.9 ล้านบาท ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

 

ล่าสุด เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 น.ส.ปนิดา ยศปัญญา อายุ 22 ปี นักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พร้อมด้วย น.ส.ณัฐกานต์ หมื่นพล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 370/135 ม.21 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สถานีตำรวจภูธรเวฬุวัน อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี พ.ต.ท.ประกอบ พาลา สารวัตรสอบสวน สภ.เวฬุวัน เป็นผู้รับแจ้ง

โดยการลงบันทึกประจำวันนั้น น.ส.ปนิดา ได้ระบุว่า เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2560 ได้ฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ระหว่างวันที่ 7-30 ส.ค.2560 โดยมีผู้อำนวยการศูนย์คือ นางพวงพะยอม จิตรคง และเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ได้ให้ผู้แจ้งช่วยทำเอกสารเบิกเงินสงเคราะห์ ผู้มีรายได้น้อย โดยให้กรอกข้อมูลในสำเนาบัตรประชาชน และเอกสารการเบิกเงินจำนวน 2,000 ราย โดยผู้แจ้งไม่รู้ว่าเป็นเอกสารเท็จ ผู้แจ้งเกรงว่าจะได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนั้นในเวลาใกล้เคียงกันได้มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวน 8 คน ที่ถูกนำเอาชื่อไปลงในรายชื่อแนบท้ายเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง จำนวน 100 คน (ฎีกาที่ 30/60 พม.0607.17/2133 ลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2559 ) โดยนักศึกษาทั้งหมดไม่ได้รับรู้ข้อมูลใดๆ แต่มีการนำเอาชื่อไปรับเงินผู้มีรายได้น้อย ประเภทไม่มีทุนการศึกษา จำนวน 3,000 บาทต่อคนด้วย

น.ส.ปนิดา กล่าวว่า หลังจากตนได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง ปปช.และ คสช.แล้ว แต่เรื่องเงียบไป แต่ในส่วนตัวตนได้ถูกคุกคามโดยผู้อำนวยการและผู้เกี่ยวข้องได้พยายามถามหาบ้านของตนและถามหาพ่อแม่ของตนตลอด ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยและกลัวว่าจะได้รับอันตราย แต่ก็ไม่ยอมที่จะปล่อยให้เรื่องเงียบ เพราะเกรงว่าหากมีการทำอะไรไม่ชอบมาพากลจริงๆ ตนจะเดือดร้อนไปด้วย เนื่องจากรู้อยู่แก่ใจว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารใบสำคัญรับเงินแต่ไม่รู้ว่าผู้มีรายชื่อได้รับเงินจริงหรือไม่

"หนูมาฝึกงานที่นี่ เพราะอยากเป็นนักพัฒนาสังคมและอยากช่วยเหลือคนเดือดร้อนยากจน แต่พอมารู้ว่ามีการปลอมแปลงเอกสารเพื่อรับเงินคนที่เดือดร้อนและคนเหล่านั้นไม่ได้รับเงินจริงหนูรับไม่ได้ หนูยอมไม่ได้ จึงได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลและทำหนังสือร้องเรียนไป แต่หลังจากร้องเรียนนอกจากจะถูกผอ.และคนเกี่ยวข้องข่มขู่ คุกคามแล้ว หนูยังถูกมหาวิทยาลัยเรียกไปสอบด้วย โดยบอกว่าทำให้มหาวิทยาลัยเสียชื่อเสียง"น.ส.ปนิดา กล่าว

นอกจากนั้นเธอยังบอกอีกว่า ก่อนที่เธอจะฝึกงานจบ 2 สัปดาห์ เธอได้เอาเรื่องที่พบในการปลอมแปลงเอกสารไปปรึกษาอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย แต่กลับถูกอาจารย์เรียกไปไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่ที่นั่น และเป็นคนที่ทำเอกสารปลอมร่วมกับผู้อำนวยการ แต่คู่กรณีไม่ยอมและบังคับให้เธอก้มกราบเท้าถึงจะยินยอมอภัยให้และให้เธอฝึกงานจบ ซึ่งเธอก็ทำตาม ซึ่งเธอบอกว่าตั้งแต่วันนั้นกลายเป็นว่าเธอถูกมองเป็นอากาศธาตุและไม่ได้รับการเหลียวแลจากที่นั่นเลย

ด้านนางน้อมจิตต์ ยศปัญญา อายุ 52 ปี แม่ของ น.ส.ปนิดา กล่าวว่า ตนรับรู้เรื่องราวมาตลอดและสงสารลูกมาก เนื่องจากตั้งแต่ไปฝึกงานเสาร์-อาทิตย์ ลูกสาวไม่ได้กลับบ้าน ตนโทรศัพท์ถามลูกสาวก็บอกว่าทำงานให้ผู้อำนวยการ วันปกติโทรศัพท์ไป ดึกดื่นก็บอกว่าทำงานให้ผู้อำนวยการอยู่บ้านพักผู้อำนวยการ ซึ่งตนมองว่าผิดปกติแล้ว เพราะลูกสาวเป็นผู้หญิง เช่าบ้านอยู่ในหมู่บ้านใกล้สำนักงานซึ่งห่างจากตัวเมืองขอนแก่นประมาณ 20 กิโลเมตร ทำไมต้องให้กลับบ้านดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้ ตนเลยคิดว่าเป็นเรื่องไม่ปกติ

เช่นกันกับ น.ส.ณัฐกานต์ หมื่นพล อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 370/135 ม.21 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น อดีตลูกจ้างศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ที่ออกมาเปิดโปงกรณีที่ถูกใช้ให้ปลอมแปลงเอกสารใบสำคัญรับเงินด้วย บอกว่า ตอนนี้สิ่งที่สงสารคือสงสารเจ้าหน้าที่อีก 2 คน ที่ถูกย้ายไปประจำอยู่ที่อื่นโดยไม่เป็นธรรม คนหนึ่งถูกย้ายไปที่ จ.หนองบัวลำภู อีกคนหนึ่งถูกย้ายไปอยู่ที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น หลังจากที่มีการร้องเรียนเกิดขึ้น ซึ่งทั้งสองคนเป็นเจ้าหน้าที่เบิกจ่าย และมักจะเรียกขอดูเอกสารก่อนการเบิกจ่าย แต่ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไม่พอใจ ที่จู้จี้ตามเอาเอกสาร จึงย้ายออกจากพื้นที่ไป ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด แต่กลับมาถูกหางเลขกับเรื่องนี้ จึงอยากจะร้องเรียนให้ผู้เกี่ยวข้องดูแลเรื่องนี้และให้ความเป็นธรรมด้วย.

[ ชมคลิปข่าว ]

ที่มา http://www.nationtv.tv/main/content/378602140/

ข่าวที่เกี่ยวข้อง







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS