สั่งย้าย ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น พร้อมจนท.3คน หลังพบมีมูล ปมสั่ง นศ.ปลอมเอกสาร
อธิบดี พส. ย้ำไม่ได้นิ่งเฉย สั่งย้าย ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น พร้อมเจ้าหน้าที่อีก 3 คน แล้ว หลังสอบพบมีมูล กรณีสั่งนักศึกษาฝึกงานปลอมเอกสารราชการ พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบวินัยทันที ...
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์กรณีนักศึกษา ม.ดังอีสาน มาฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ขอนแก่น แล้วถูกสั่งให้ปลอมเอกสารราชการ กรอกข้อมูลสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และเอกสารผู้ติดเชื้อเอดส์ และลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงินนับพันชุด เป็นเงินกว่า 6.9 ล้านบาท จนพบพิรุธ และได้ร้องเรียนต่อเลขาธิการ คสช. และ ป.ป.ช.ขอนแก่น ว่า เรื่องดังกล่าวสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งเรื่องมาที่ พม.และให้ พส. ตรวจสอบประมาณเดือน พ.ย. 2560 ตนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งมีเลขานุการกรมและนิติกรลงพื้นที่ ไปสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน
แต่กระบวนการสอบข้อเท็จจริงต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย โดยไม่ได้พิจารณาเพียงพยานหลักฐานเท่านั้น แต่ต้องเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงจากจากชาวบ้านในพื้นที่ด้วย ซึ่งต้องใช้เวลา กระทั่งเดือน ม.ค. 2561 คณะกรรมการได้รายงานผลสอบพบว่ามีมูล จากนั้นตนก็ได้มีคำสั่งย้ายผู้เกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวทั้งหมด 4 คน ออกจากพื้นที่ทันที ซึ่งประกอบด้วย ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ 3 คน เพื่อให้เกิดความชัดเจน และเหมาะสมต่อกระบวนการสอบสวนหลังจากนี้
อธิบดี พส.กล่าวด้วยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย โดยมีรองอธิบดีเป็นประธาน คาดภายใน 2-3 เดือน จะรู้ผล หากผลเป็นอย่างไรก็ต้องดำเนินการไปตามระเบียบราชการและข้อกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ พส.ไม่ได้นิ่งเฉย แต่อยู่ระหว่างดำเนินการ อีกทั้งได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามกระบวนการหลังจากที่ได้ทราบผลสอบว่ามีมูล และขณะนี้ก็ได้รายงานสรุปผลให้ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. ทราบอีกครั้ง ทั้งนี้ เป็นนโยบายที่ รมว.พม.ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ที่เน้นย้ำถึงการปฏิบัติงานของข้าราชการทุกคนต้องถูกต้องโปร่งใส รวมถึงการให้ความสำคัญต่อการปราบปรามการทุจริตอย่างเคร่งครัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นศ.ฝึกงานแฉ! ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯขอนแก่น สั่งปลอมเอกสาร เบิกเงิน6.9ล้าน
ที่มา
http://www.thairath.co.th/content/1199363
