เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 16 พ.ย. ที่ศาลหลักเมืองขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น นางศศิธร  ไชยจันทร์ดี อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 7 ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย นายสายันต์ จรเข้ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 6 ต.ทรายมูล อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น และชาวบ้าน อ.น้ำพอง 9 คน มากราบไหว้ศาลหลักเมืองขอนแก่น เพราะชาวบ้าน อ.น้ำพองต่อสู้กับกลุ่มนายทุนกว่า 26 ปี โดยมีคำสั่งศาลคดีถึงที่สุด จึงได้ไปขอออกโฉนดที่ดิน โดยมีการชำระค่าธรรมเนียมต่างๆผ่านการเสียภาษี,ค่าโอน,ค่ารังวัด พร้อมปิดปีระกาศออกโฉนดที่ดินเรียบร้อยแล้ว แต่สุดท้ายเจ้าพนักงานที่ดินประวิงเวลานานนับ 2 ปี โดยหาข้ออ้างปัญหาต่างๆนาๆ ก็ยังไม่ให้โฉนด

หลังจากนั้นได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชน โดย นางศศิธร บอกว่า ชาวบ้านที่มาครั้งนี้เกิดความเดือดร้อนอย่างมากเพราะที่ดินแปลง 66 ไร่ อยู่ในพื้นที่บ้านโคกสง่า ต.ทรายมูล และแปลงที่ดิน 27 ไร่ ติดกับถนนสายน้ำพอง - กระนวน ติดกับค่ายเปรมติณสูลานนท์ ชาวบ้านได้ขอให้เจ้าหน้าที่ที่ดิน อ.น้ำพองขอให้ออกโฉนดที่ดินในแปลงดังกล่าวมานานหลายปี ก็ไม่ยอมให้แม้ทราบว่าที่ดินในแปลงดังกล่าวได้ออกโฉนดเรียบร้อยแต่ไม่ให้ชาวบ้าน โดยอ้างว่าติดปัญหาการจำนองมาตั้งแต่ปี 2558  แต่แท้ที่จริงไม่ได้ติดปัญหาแต่อย่างไรเพราะศาลสั่งเพิกถอนแล้ว ผู้เสียหายทั้ง 11 คน จึงร้องเรียนไปที่ศูนย์ดำรงธรรม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมกับศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ มทบ.23 ขอนแก่น พวกตนจึงได้ร้องเรียนไปยังที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งได้ส่งหนังสือมาที่กรมที่ดิน โดยสั่งให้ทางจังหวัดพิจารณาในเรื่องดังกล่าว จนมาถึงปัจจุบันที่ดินจังหวัดขอนแก่นก็ไม่ได้ประสานงานมาที่ผู้เสียหาย ที่ดิน อ.น้ำพองก็ยังนิ่งเฉย ผู้เสียหายก็เห็นว่าทางฝ่ายที่ดิน อ.น้ำพองประวิงเวลาทั้งที่ประกาศออกโฉนดแล้ว เมื่อขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานรัฐไม่ได้ จึงต้องมาขอกราบไหว้ศาลหลักเมืองขอนแก่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนขอนแก่นเคารพนับถือกราบไหว้บูชา เพื่อให้ท่านดลบันดาลให้ที่ดิน อ.น้ำพองได้ออกโฉนดที่ดิน และสั่งเพิกถอนแล้ว ให้กับผู้เสียหายทั้ง 11 คน ด้วย เพราะผู้เสียหายต้องได้รับใบโฉนดในที่ดินแปลง 66 ไร่ และแปลง 27 ไร่ เพราะคำพิพากษาศาลฎีกาถึงที่สุดแล้ว ผู้เสียหายทั้ง 11 คน ต้องได้รับใบโฉนดในที่ดินแปลงดังกล่าว

"ผู้เสียหายได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงานของรัฐแต่ก็นิ่งเฉย เมื่อไปถามที่ดิน อ.น้ำพองก็บอกว่ายังติดปัญหาจำนองยังให้ไม่ได้ กระทั่งศาลฎีกาได้พิจารณาคดีดังกล่าวให้เพิกถอนซึ่งเป็นคดีถึงที่สุด ผู้เสียหายต้องได้โฉนดในที่ดินแปลงดังกล่าว เพราะทุกขั้นตอนผู้เสียหายได้โฉนดเป็นชื่อของผู้เสียหายทั้ง 11 คน แต่ที่ดิน อ.น้ำพองยังไม่ให้โฉนดกับผู้เสียหายทั้งหมด พวกตนจึงเชื่อว่าฝ่ายฝ่ายที่ดิน อ.น้ำพองไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลฎีกา ดังนั้นเราจะสู้ต่อไปจนกว่าพนักงานที่ดิน อ.น้ำพองจะต้องมอบโฉนดที่ดินในแปลงดังกล่าวให้กับผู้เสียหายจนถึงที่สุด" นางศศิธรกล่าว