ขอนแก่น เจ้าของบ้านใกล้เขื่อนอุบลรัตน์ร้อง ถูกเจ้าหน้าที่รื้อบ้านผิดหลัง (ชมคลิป)
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 11 มิถุนายน 2560 ผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 85 ม.3 ต.เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น หลังชาวบ้านแจ้งว่า มีการติดป้ายของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และป้ายของกระทรวงยุติธรรม ขนาดใหญ่ไว้ที่หน้าบ้าน
นางศิรินทร์พร นามเส อายุ 39 ปี เจ้าของบ้าน และสามีชาวต่างชาติ นายสก็อต แบรดชอว์ อายุ 45 ปี เปิดเผยว่า ตนได้แต่งงานและเปิดกิจการร้านนวด อยู่ที่ประเทศออสเตรเลียไม่ค่อยได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทย กระทั่งปลายปี 2559 ญาติโทรศัพท์แจ้งให้รีบเดินทางกลับมาที่ประเทศไทย เพราะมีประกาศเทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ เรื่องการรื้อถอนรีสอร์ททับเทวัญ เลขที่ 338 ม.8 แต่มีประกาศติดที่หน้าบ้านตนด้วย
เมื่อมาถึงบ้านก็พบประกาศรื้อถอนติดที่หน้าบ้านจริงตามที่ญาติแจ้ง เป็นการรื้อทับเทวัญรีสอร์ท และมีประกาศมาติดที่บ้านตนด้วย ซึ่งเป็นบ้านเลขที่ 85 ม.3 แต่ทับเทวัญรีสอร์ทเลขที่ 338 ม.5 ตนจึงนำเอกสารหลักฐาน ไปชี้แจงต่อนายกเทศมนตรีเทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ ประกอบด้วยภาพถ่ายบ้านหลังเดิม และหนังสือสัญญาการซื้อขายที่ดินพร้อมบ้าน เนื่องจากที่ดินที่ตนอาศัยอยู่ คือบ้านเลขที่ 85 ม.3 จากเจ้าของเดิมคือ นางทองสี ทีเกาะ ซื้อต่อมาในราคา 500,000 บาท ทำสัญญาซื้อขายเมื่อวันที่ 10 ก.ย.2557 เมื่อซื้อบ้านแล้วก็ย้ายตัวเองเข้ามาเป็นเจ้าบ้าน จากนั้นพอมีเงินก็เริ่มสร้างบ้านใหม่ในที่ดินเดิม บ้านเลขที่เดิม และไม่เคยปล่อยให้เช่าหรือประกอบกิจการแฝงใดๆทั้งสิ้น
ส่วนบ้านเลขที่ 338 ม.3 ที่สร้างเป็นรีสอร์ทและมีคำสั่งรื้อถอนไปแล้วนั้นเป็นของบิดา ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกับตน เพราะตนอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 85 ฉะนั้นการที่เจ้าหน้าที่จะมารื้อบ้านตนถือเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง แต่เมื่อเข้าพบเจ้าหน้าที่เทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ ก็ไม่ให้โอกาสชี้แจง จึงร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น เรื่องก็เงียบหาย จึงเข้าร้องเรียนที่กระทรวงยุติธรรม และร้องเรียนที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย เพื่อขอความเป็นธรรมในคำสั่งรื้อถอนดังกล่าว ว่าควรจะแยกแยะระหว่างบ้านเลขที่ ที่ตนอาศัยคือเลขที่ 85 กับบ้านเลขที่ 338 คนละหลัง แต่มีพื้นที่ติดกัน
เมื่อร้องเรียนที่สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ก็มีหนังสือตอบกลับมาว่า ตามที่ร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่นำประกาศเทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์แจ้งกำหนดการรื้อถอนอาคารที่พักชื่อทับเทวัญรีสอร์ทเลขที่ 338 ม.3 มาปิดที่หน้าบ้านเลขที่ 85 ม.3 ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน และในเดือน มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่เทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ก็เข้ารื้อถอนทับเทวัญรีสอร์ท และจะรื้อบ้านเลขที่ 85 ด้วย ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้คนในบ้าน ซึ่งสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยแจ้งจังหวัดขอนแก่นตรวจสอบข้อเท็จจริงและพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ผลเป็นประการใดจังหวัดขอนแก่นจะแจ้งให้ทราบ โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทยหรือศูนย์ดำรงธรรมนั้น มีหนังสือแจ้งกลับมาลงวันที่ 24 เม.ย. จึงได้ไปสอบถามที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ว่ามีความเห็นหรือพิจารณาเช่นไรกับเรื่องประกาศรื้อถอนของเทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ เพราะอยากขอความเป็นธรรม แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่ายังไม่เห็นหนังสือ และไม่แน่ใจว่าผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นจะทราบเรื่องหรือไม่ เมื่อเจ้าหน้าที่ตอบเช่นนี้จึงหมดทางในการเรียกร้องความเป็นธรรม
ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมนั้น มีการแจ้งผลการร้องเรียนมาแล้วเช่นกัน หนังสือลงวันที่ 8 พ.ค.แจ้งว่า ตามที่ร้องขอความเป็นธรรมว่าซื้อที่ดินและบ้าน บ้านเลขที่ 85 ม.3 ซึ่งอยู่ติดกับบ้านเลขที่ 338 ม.3 ทับเทวัญรีสอร์ท ของนายคงฤทธิ์ นามเส ซึ่งเทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์มีประกาศรื้อถอนและรื้อไปแล้ว แต่คำสั่งดังกล่าวได้รวมบ้านเลขที่ 85 เข้าไปด้วย จึงมีการทำหนังสือโต้แย้งคำสั่งไปยังเทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ ไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเป็นบริวารของบ้านเลขที่ 338 แต่เทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์ไม่พิจารณา พร้อมทั้งมีการลงบันทึกประจำวันไว้ที่สภ.อุบลรัตน์ด้วยนั้น กระทรวงยุติธรรมพิจารณาแล้วเห็นว่า ได้ซื้อบ้านมาจากนางทองสี ทีเกาะ ต่อมามีการสร้างและต่อเติมเพิ่ม และบ้านหลังดังกล่าวไม่ได้เป็นบริวารของบ้านเลขที่ 338 ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของผู้ร้องเรียน จึงได้ส่งเรื่องไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เพื่อพิจาณาและให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสม
ล่าสุด มีหนังสือจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2560 แจ้งไปยัง นางศิรินทร์พรว่า ตามที่ได้ร้องเรียน ไปยังศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยว่า ได้รับผลกระทบต่อคำสั่งรื้อถอนของเทศบาลเขื่อนอุบลรัตน์นั้น ได้สั่งการให้นายอำเภออุบลรัตน์ตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า เป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งในอำนาจการรื้อถอนเป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นโดยชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ประกอบกับข้อร้องเรียนดังกล่าว ผู้ร้องได้ใช้สิทธิ์ทางศาล ตามกระบวนการพิจารณาของแล้ว หากศาลมีคำสั่งเป็นอย่างใด เทศบาลฯ ก็จะปฏิบัติตามคำสั่งศาลนั้น จึงเรียนมาเพื่อทราบและยุติข้อร้องเรียน ร้องทุกข์ของท่านในชั้นของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขอนแก่น มีนายสุวพงษ์ กิติภัทย์พิบูลย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นผู้ลงนามในหนังสือดังกล่าว
ขอขอบคุณภาพและข่าว
News Around
