หนุ่มป.โทเครียดหนัก ใช้อาวุธปืนจ่อยิงขมับตัวเองหวังฆ่าตัวตาย ที่ขอนแก่น
เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 27 ก.พ. ร.ต.อ.ยงยุทธ สะเดา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ทำหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.ย่อยเมืองเก่า ได้รับแจ้งว่า มีเหตุคนใช้อาวุธปืนยิงตัวเองบาดเจ็บสาหัส อยู่ที่ทาวเฮ้าส์ 2 ชั้น เลขที่ 106 /3 หมู่8 บ้านขามเจริญ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงได้รุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.นพดล เพช็รสุทธิ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.สุทัศน์ ไพบูลย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น แพทย์เวร รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น มูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนชุดพยัคฆ์ สภ.เมืองขอนแก่น
เมื่อไปถึงพบมีชาวบ้านมามุงดูที่เกิดเหตุ และประตูหน้าบ้านเปิดออก ในห้องมีเสื่อ 1 ผืน กองเลือด อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 มม. 1 กระบอก ปลอกกระสุนในลำกล้อง 1 ปลอก หัวกระสุนขนาด .38 มม. 1 หัว และยาคลายกังวล 2 ซอง ส่วนคนเจ็บทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนายอมต อมรบดินทร์ อายุ 32 ปี ขณะนี้กำลังศึกษาวิชากฎหมายปริญญาโทชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และทำงานเป็นหัวหน้า รปภ.ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น พร้อมกับเป็นเจ้าของห้องเช่าดังกล่าว ซึ่งสวมยืดสีดำ กางเกงขาสั้นสีน้ำตาล มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ขมับขวาทะลุขมับซ้าย หายใจแผ่วเบา ทำให้คนในบ้านและมูลนิธิฯต้องรีบนำคนเจ็บส่งไปที่ รพ.ขอนแก่น เพื่อช่วยเหลือชีวิตโดยด่วน ขณะนี้แพทย์และพยาบาลต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
ร.ต.อ.ยงยุทธ สะเดา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า จากการสอบถาม นางนันธีรา วิโรวน์รัตน์ อายุ 56 ปี แม่ของคนเจ็บ ทราบว่า นายอมตป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามาประมาณ 3 ปี และเป็นคนไข้ของ รพ.ขอนแก่น มาโดยตลอด โดยไปรับยาคลายกังวลรักษาโรคซึมเศร้าจากโรงพยาบาลขอนแก่นทุกเดือน ก่อนเกิดเหตุ นายอมตไม่ได้ไปรับยาคลายกังวลจาก รพ.ขอนแก่น ประมาณ 5 วัน จึงได้แต่นั่งเศร้าและคิดมากไม่ยอมพูดกับใคร กระทั่งวันเกิดเหตุนายอมตนอนอยู่ชั้นที่ 2 พอถึงเวลาประมาณ 04.00 น. ได้ลงมาชั้นล่าง แม่ของนายอมตนึกว่าจะลงมาอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงลงมาดูชั้นล่างพบนายอมตนอนหงายใกล้เสียชีวิต แม่ของนายอมตจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และมาที่ชั้นล่าง เมื่อพบว่านายอมตยังไม่เสียชีวิตจึงได้รีบนำส่ง รพ.ขอนแก่นทันที อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวน สภ.ย่อยเมืองเก่า ได้แจ้งให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่นมาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
ขอขอบคุณภาพและข่าว
คุณก่อสิทธิ์ กองโฉม และคุณจิราภรณ์ พอกพูล
