คมนาคม!สั่งลุย รถไฟขอนแก่น-แหลมฉบัง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม
'อาคม'สั่ง ร.ฟ.ท.ปรับแผนลงทุนพีพีพี เดินหน้ารถไฟขอนแก่นแหลมฉบัง ยันต้องเปิดโอกาสให้เอกชนทุกรายเข้าประมูล ด้านเอกชนขอขยายเส้นทางถึงหนองคาย อ้างถึงคุ้มค่าลงทุน
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมโครงการเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในการขนส่งสินค้าทางรถไฟว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้นำเสนอรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการที่จะให้ภาคเอกชนเข้ามาให้บริการเดินรถขนส่งสินค้าด้ายระบบไฟฟ้า เส้นทางขอนแก่นแหลมฉบัง ระยะทาง 516 กิโลเมตร (กม.) ซึ่ง ร.ฟ.ท.ขออนุมัติดำเนินโครงการในรูปแบบ พีพีพี เน็ท คอสท์ โดยรัฐลงทุนระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล ส่วนเอกชนลงทุนจัดหาขบวนรถไฟฟ้า อู่จอดและซ่อมบำรุง ระยะเวลา 30 ปี และต่ออายุสัมปทานได้อีก 30 ปี แต่ที่ประชุมให้ ร.ฟ.ท.กลับไปทบทวนเพิ่มเติมข้อมูลรายละเอียดผลตอบแทนการลงทุน และปริมาณสินค้าที่เชื่อมโยงกับการขนส่งจากเส้นทางรถไฟสายรองอื่นๆ เพื่อให้เสนอกลับมาภายใน 60 วัน
"โครงการนี้จะเปิดให้เอกชนทุกรายสามารถเสนอตัวเข้าร่วมลงทุนได้ ไม่ได้คุยกับเอกชนรายเดียวเท่านั้น ดังนั้น ร.ฟ.ท.และที่ปรึกษาการเงินต้องไปจัดทำรายละเอียดรูปแบบร่วมทุนและกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจน ไม่ใช่เสนอแนวทางการเจรจากับเอกชน แต่จะต้องเป็นแนวทางที่เปิดกว้างให้เอกชนรายอื่นๆ"
นายอาคมกล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการร่วมทุนแบบพีพีพี จึงต้องจัดทำรายงานผลการศึกษาโครงการ ตามมาตรา 24 แห่ง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ 2556 ก่อนที่จะเสนอคณะกรรมการพีพีพีพิจารณา โดย ร.ฟ.ท.ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงินจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จัดทำรายงานผลการศึกษา สำหรับแนวเส้นทางไม่มีปัญหา แต่ภาคเอกชนได้เสนอว่าในการจัดทำมาร์เก็ตซาวดิ้งเห็นว่า ควรต่อขยายเส้นทางจากขอนแก่นไปถึงหนองคายจึงจะมีความคุ้มค่าในการลงทุน ดังนั้นให้ ร.ฟ.ท.ไปทบทวนผลตอบแทนการลงทุน วิเคราะห์ต้นทุน รวมทั้งให้พิจารณาเรื่องการเพิ่มปริมาณขนส่งสินค้าที่จะต่อเชื่อมเส้นทางรถไฟสายบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม และจากนครราชสีมา-อุบลราชธานี เพื่อขนส่งสินค้าจากอีสานตอนใต้ โดยใช้จุดเชื่อมต่อบริเวณชุมทางจิระ จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งให้พิจารณาปริมาณความต้องการในการขนส่งสินค้า รวมถึงการใช้ประโยชน์ของรางให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพราะ ร.ฟ.ท.เป็นผู้ลงทุนทรัพย์สินทางราง จึงต้องแบ่งสัดส่วนการขนสินค้าและการขนผู้โดยสารด้วย
"ที่เสนอมาเป็นข้อเสนอของเอกชนรายเดียว จึงให้กลับไปดูขนาดและปริมาณของสินค้าว่าอาจมีเอกชนหลายรายหรือไม่ รวมทั้งต้องอธิบายเหตุผลที่ให้เอกชนลงทุนเดินรถ เพราะ ร.ฟ.ท.ไม่เก่งในด้านการตลาดเท่ากับเอกชนหรือไม่ และให้เปรียบเทียบการขนส่งโดยรถจักรดีเซลและรถไฟฟ้าด้วย" นายอาคม กล่าวและว่า เส้นทางดังกล่าวคาดการณ์ปริมาณขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น เพราะมีนโยบายจะปรับเปลี่ยนการขนส่งทางถนนมาขนทางรถไฟเพิ่มขึ้น ดังนั้น จะต้องพิจารณาประเภทของสินค้าที่ขนส่งจากในประเทศหรือมาจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมประเภทน้ำตาลและการเชื่อมต่อเส้นทางขนส่งสินค้าจากประเทศจีนเข้ามาอีกด้วย แม้ว่าการขนสินค้าทางรางของจีนจะใช้รางขนาด 1.435 เมตร แต่การขนส่งสินค้าทางของไทยเป็นราง 1 เมตร ดังนั้น จีนต้องมาเปลี่ยนถ่ายการขนสินค้าที่หนองคายหรือเวียงจันทน์มายังไทย
ที่มา มติชน (กรอบบ่าย) ฉบับวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559
