"ขอนแก่น" ประกาศในเวทีท่องเที่ยวโลก พร้อมเป็นประตูอินโดจีน
ในฐานะเมืองที่ได้รับเลือกให้ร่วมจัดงานการประชุมท่องเที่ยวโลก ซึ่งคณะผู้แทนการท่องเที่ยวโลกกว่า 110 ประเทศจะเดินทางมาเยือน จ.ขอนแก่น ช่วงวันที่ 28-29 ก.ย.นี้ วาระนี้จึงเป็นโอกาสอันดีที่ จ.ขอนแก่น จะประกาศความมั่นใจให้นานาชาติเห็นศักยภาพหัวเมืองหลักภาคอีสาน ที่พร้อมต่อการเปิดประตูสู่อินโดจีนที่สมบูรณ์แบบ
เข็มชาติ สมใจวงษ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า นอกจากการประชุมร่วมของคณะรัฐมนตรีและผู้ที่เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่กรุงเทพฯ แล้ว คณะผู้แทนการท่องเที่ยวโลกยังจะเดินทางมาที่ขอนแก่น ซึ่งรัฐบาลไทยได้เลือกขอนแก่นเป็นพื้นที่สำหรับการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยว ภายใต้หัวข้อ “การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล การเข้าถึงที่เท่าเทียม”
“เมื่อคณะจากนานาประเทศกว่า 150 ท่านเดินทางมาถึง จะร่วมรับประทานอาหารกลางวันด้วยเมนูอาหารรสแซบและมีชื่อเสียงระดับโลก อย่าง ข้าวเหนียว ไก่ย่าง ส้มตำ ต้มยำกุ้ง และอาหารอีสานประเภทต่างๆ ที่เป็นที่ต้องการของคณะ ขณะเดียวกันในการรับประทานอาหารที่ราชาวดีรีสอร์ทแอนด์โฮเต็ลนั้นจะมีการจัดรูปแบบอาหารในสไตล์อีสานประยุกต์ บริเวณโดยรอบจะเป็นการจัดตลาดแลง หรือตลาดท้องถิ่น ให้พ่อค้าและแม่ค้าได้มาจำหน่ายสินค้าของฝากชื่อดังของภาคอีสาน อย่างไส้กรอกอีสาน หม่ำหมูและหม่ำเนื้อ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ชุมชนต่างๆ ที่ทำจากงานฝีมือ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกชื่นชอบความเป็นตลาดท้องถิ่นของไทยอย่างมาก”
เข็มชาติ กล่าวอีกว่า อีกหนึ่งสิ่งที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก และครั้งนี้ชาวขอนแก่นได้จัดเตรียมไว้ต้อนรับ และทุกคนจะได้ลงมือปฏิบัติจริงที่หมู่บ้านผ้าไหม ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนไหมไทยกลุ่มสตรีสหกรณ์บ้านหัวฝาย อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งคณะผู้แทนท่องเที่ยวโลกที่มาเยือนจะได้เรียนรู้ขั้นตอนการเลี้ยงไหม การสาวไหมและการทอผ้าไหมที่สวยงามของชาวขอนแก่น และเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วทั้งโลก จากนั้นจะแวะเยี่ยมชมวัดสระทองบ้านบัว สถาปัตยกรรมรางวัลยูเนสโก ที่ อ.มัญจาคีรี และในรุ่งเช้าของวันที่ 29 ก.ย. คณะจะร่วมทำบุญตักบาตรข้าวเหนียวที่วัดหนองแวงพระอารามหลวง
“หลังจากนั้นจะเดินทางชมศักยภาพทางธุรกิจและการท่องเที่ยวของ จ.ขอนแก่น ตลอดจนอารยสถาปัตย์ที่รองรับการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล อย่างไรก็ตาม จ.ขอนแก่น พร้อมแสดงออกถึงศักยภาพของเมืองที่เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางของกลุ่มประเทศอินโดจีน และพร้อมที่จะเป็นเมืองเศรษฐกิจสมัยใหม่ของกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยความร่วมมือร่วมใจของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เรามีอารยธรรม มีประเพณี ขนบธรรมเนียม และการเป็นเมืองเชื่อมกับกลุ่มประเทศตามลุ่มน้ำโขง และกลุ่มประเทศอาเซียน ทำให้ขอนแก่นพร้อมที่จะต้อนรับผู้แทนด้านการท่องเที่ยวจากทั่วโลกอย่างภาคภูมิใจ”
ทั้งนี้ ในช่วงเดือน ม.ค. 2560 ที่จะถึงนี้ สายการบินไทยแอร์เอเชียจะเปิดเส้นทางการบินต่างประเทศเส้นทางแรกด้านการพาณิชย์ในเส้นทางขอนแก่น-คุนหมิง ประเทศจีน และเส้นทางต่างประเทศอื่นๆ ตามมาอีก โดยปัจจุบันท่าอากาศยานขอนแก่นมีผู้โดยสารปีละ 3.5 ล้านคน แต่จากนโยบายประตูสู่อินโดจีน คาดว่าในปี 2560 จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็นปีละ 5 ล้านคน
ขอขอบคุณบทความโดย คุณจักรพันธ์ นาทันริ
